วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ดร.รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย เปิดเผยว่าจากกรณีของ บอส หรือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม และระบบนิติรัฐของประเทศอย่างมาก เพราะเราปกครองด้วยระบบ “กฎหมาย” ไม่ใช่ปกครองด้วยระบบ “อำนาจบารมี” กล่าวคือ ถือกฎหมายเป็นใหญ่ คนบังคับใช้กฎหมายเป็นรอง ดังนั้น กรณีนี้จึงถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่เกี่ยวข้องที่จะต้องร่วมกันรับผิดชอบ และชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาต่อสังคม จะต้องทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันทุกคน ไม่เลือกว่ารวยหรือจน ขาวหรือดำ สูงหรือต่ำ ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะเอาหลักอะไรมายึด ตรรกะประเทศผิดเพี้ยน คนก็จะยิ่งเสื่อมศรัทธา วิกฤตก็จะเกิดตามมา อีกหน่อยคงไม่มีใครยำเกรงต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมืองอีกต่อไป
“เรื่องนี้ตนอยากให้อัยการสูงสุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของทั้ง 2 องค์กร ได้ร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา เปิดเอกสารหลักฐานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่ามีใคร อย่างไรบ้าง การตั้งกรรมการสอบสวนแต่ละชุดเป็นเรื่องดี แต่ก็ไม่ควรใช้เวลานานถึง 7 วัน เพราะข้อมูล ข้อเท็จจริงก็ปรากฎชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนในทางข้อกฎหมายจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร สามารถทำให้เกิดความโปร่งใส และเป็นธรรม เรียกศรัทธาความเชื่อมั่นคืนกลับมาได้หรือไม่ อัยการสูงสุด และ ผบ.ตร. ต้องมีความชัดเจนแล้วแถลงต่อสังคมด้วยตัวท่านเอง ทั้ง 2 ท่านจะต้องร่วมรับผิดชอบต่อกรณีนี้ จะอ้างว่าไม่ทราบ หรือไม่ได้ลงนามไม่ได้ คดีนี้มีช่องโหว่และข้อสงสัยหลายประการ สังคมและประชาชนต่างคาดหวังและรอคำตอบเรื่องนี้จากผู้นำสูงสุดทั้ง 2 หน่วยงาน ที่ถือเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม หากทำไม่ได้ ตนคิดว่าทั้ง 2 ท่านก็ควรพิจารณาตนเอง ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งอีกต่อไป” ดร.รยุศด์ กล่าว