นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันพรุ่งนี้ (13 ส.ค.) คาดว่าจะมีการอนุมัติให้มีการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว (BTS) ออกไปอีก 40 ปี ทั้งที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่กลับมาใช้มาตรา 44 เพื่อหลีกหนีการแข่งขัน
โดยมีเหตุผลดังนี้ 1.ข้ออ้าง กทม.ใช้มาตรา 44 สีเขียว มี 2 ประเด็น คือ ให้ BTS แบกหนี้แทน กทม.และค่าโดยสารถูก เหลือ 65 บาท ตลอดสาย มาเจรจาแลกกับการต่อสัมปทาน 2.กทม.อ้างว่าทำ market sounding แล้วไม่มีเอกชนสนใจ เลยต้องเจรจากับรายเดิม BTS และ 3.เรื่องนี้ผิดกฎหมายฯ เพราะสัญญาเหลือเป็น 10 ปี ทำไมไม่รอสัญญาจบค่อยเปิดประมูลใหม่
ส่วนเรื่องหนี้ค่าก่อสร้างที่ รฟม.รับภาระอยู่ เหตุใดต้องโอนให้ กทม.แล้วเอาไปแลกกับการต่อสัมปทาน ถ้าจะโอนให้ กทม.รัฐก็จัดงบประมาณจ่ายให้ กทม.ไป เหมือนที่จ่ายให้ รฟม.ในสายอื่น ๆ ส่วนเรื่องค่าโดยสารถูก ส่วนต่อขยาย กทม.เก็บถูกอยู่แล้ว 10 – 15 บาท ส่วนไข่แดงก็ให้ BTS เก็บไปตามสัญญาจบปี 2573 จากนั้นประมูลใหม่ก็กำหนดค่าโดยสารใหม่ทั้งสายให้ถูกลงได้ ขณะที่สัญญาส่วนต่อขยายที่จ้างอยู่ก็หนี พ.ร.บ.ร่วมทุน โดย กทม.ใช้ KT-กรุงเทพธนาคม จ้าง BTS อ้างว่าไม่ใช่รัฐ ทั้งที่ กทม.ถือหุ้น 100% เรื่องนี้ผิดมาเป็น 10 ปี ซึ่งเรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช.และดีเอสไอ
ส่วนการออกมาตรา 44 ทั้งที่เรื่องนี้เป็น PPP ต้องทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 และในมาตรา 44 ยังระบุว่า เมื่ออนุมัติจบให้ถือว่าเป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน โดยอนุโลม เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการฟอกตัวสิ่งที่ทำผิดกฎหมาย เอื้อประโยชน์ เมื่อเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มี พ.ร.บ.PPP บังคับใช้แล้ว ควรยกเลิกมาตรา 44 ฉบับนี้ 4.ที่ผ่านมา สคร. , ก.การคลัง และ สศช.ไม่มีใครเห็นด้วยกับ กทม.เพราะไม่มีเหตุผล และผิดกฎหมาย
สุดท้ายกระทรวงมหาดไทย จึงขอใช้มาตรา 44 และเมื่อเข้าสภาฯ สภาฯ ก็มีมติฯ ไม่ให้ต่อขยายฯ 40 ปี 5.แม้ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งที่ คสช.ที่ 3/2562 แล้วก็ยังใช้เกินขอบเขตอำนาจของคำสั่งจากการแก้ไขสัญญาสัมปทาน เป็นการยกเลิกสัญญาสัมปทานซึ่งตนเองได้ยื่นคัดค้านฯ ไว้
ถ้าการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังดื้อดึง อนุมัติให้ต่อขยายสัมปทานสายสีเขียว เท่ากับว่า 1 จงใจใช้คำสั่งมาตรา 44 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 2.ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ปี 2562 ที่ตราขึ้นมาเอง 3.เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนฯ โดยหลีกหนีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม 4.ไม่เคารพต่อมติของสภาฯ 5.รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เพิ่งถวายสัตย์ฯ เข้ามารับตำแหน่งใหม่ยังไม่รู้เรื่อง เลยมามัดมือชกให้อนุมัติฯ ในสัญญาที่เหลืออีก 10 ปี แสดงถึงความไม่ชอบมาพากลเร่งรีบทำไม ไม่ให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจใหม่ไปดูมาให้รอบคอบเสียก่อน ทั้งหมดนี้แสดงออกอย่างชัดเจน เหมือนที่ม็อบนักศึกษาว่า รัฐบาลนี้มีพฤติกรรมปล้นชาติชัด ๆ
อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้นายกฯ ระงับยับยั้งเรื่องนี้ ถ้าไม่เช่นนั้นตนต้องร้องเรียน ครม.ทั้งใหม่และเก่า ทั้งคณะต่อ ป.ป.ช.ต่อไป และผมเตรียมการเสนอให้พรรคเพื่อไทยเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน
