วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อภิปรายสรุปร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณปี 64 ว่า GDP ในปีนี้ 2554 การเติบโต 0.8 แล้วไปขึ้นในช่วงนโยบายรถคันแรก และจำนำข้าว แล้วค่อยมาลดลงเป็นปกติ ปี 2556 มาเป็น 2.7 และปี 2557 เป็น 1% แต่ตนไม่ได้เป็นคนทำงบประมาณช่วงที่เกิดความขัดแย้งจนใช้งบประมาณไม่ได้ แล้วตนก็เข้ามาแก้ไขปัญหาตอนนั้น ปี 2558 เป็น 3.1% ปี 2559 เป็น 3.4% ปี 2560 เป็น 4.0% ปี 2561 เป็น 4.1% ในช่วงนี้มีการลงทุนการเจริญเติบโตในหลายประเทศโดยการมีการลงทุนใน EEC ซึ่งกำลังเดินหน้ามาด้วยดี แต่ไปเจอสงครามการค้าในปี 2562 แล้วเจอก็โควิดปี 2563
“เราต้องยอมรับว่า เป็นสถานการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ การทำงบประมาณใหม่ไม่ทราบว่าทำได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่การใช้งบฟื้นฟูมาบริหารราชการปกติไม่น่าจะทำได้ ก็ขอให้มาพิจารณากันต่อในชั้นกรรมาธิการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนในนามรัฐบาลขอขอบคุณสมาชิกอันทรงเกียรติที่พิจารณา ตนคิดว่างบประมาณในปี 2564 เป็นการวางรากฐานในการพัฒนาและแก้ปัญหาทุกด้าน ดูแลผู้มีรายได้น้อยเกษตร แหล่งน้ำ ตามงบประมาณที่มีอยู่ให้มากที่สุด เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ทุกส่วนเพื่อยกระดับประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและการทั่วประเทศตลอดจนนโยบายต่างๆ มุ่งเน้นการส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศสร้างความเป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เพราะต้องเดินหน้าต่อไปในเรื่องของการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ตลอดจนสร้างความสมดุลและยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาประเทศมีความสมดุลทุกด้าน บรรลุเป้าหมายที่ร่วมกันที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการกระจายผลประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงทั่วถึงเป็นธรรมตามที่มีอยู่ให้มากที่สุด แล้วก็มุ่งหวังให้การใช้จ่ายของแผ่นดินเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน ส่วนข้อเสนอและข้อติติงต่างๆ ตนรับได้และขอกรรมาธิการวิสามัญนำไปพิจารณาให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น