วันที่ 22 มิถุนายน 2563 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการต่อ หรือยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยระบุว่าหากไม่ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว จะทำให้กิจกรรมและกิจการต่างๆ ได้รับการปลดล็อกทั้งหมดโดยอัตโนมัติเลยหรือไม่นั้น ว่า ใช่ เว้นแต่จะนำพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาใช้ ซึ่งตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ในมาตรา 34 และ 35 ก็ล็อกได้ แต่ไม่เหมือนล็อกที่ผ่านมา
“ที่มีการปิดบาร์ทุกบาร์ ผับทุกผับ สนามบินทุกแห่ง เกิดจากอำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ จะล็อกได้เป็นร้านๆ เป็นจุดๆ ที่มีปัญหา และเป็นวันๆ ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์ เพราะโรคติดต่อมันมากับคน และเราไม่รู้ว่าคนไปไหนมาบ้าง” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ที่ตนอธิบายมาความหมายที่ต้องการจะบอก คือ คำว่าล็อกไม่มีในกฎหมาย เราพูดเอง ซึ่งมันแปลว่าปิด เราพูดคำว่าปิดบ้าน ปิดเมือง ปิดประเทศ อันนั้นเรียกล็อกดาวน์จริง ๆ ซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ ต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ถ้ายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะล็อกดาวน์แบบนี้ไม่ได้ แต่จะล็อกดาวน์เป็นร้านหรือห้างสรรพสินค้าได้ โดยปิดเป็นจุดๆ เป็นวันๆ ไป พอแก้ไขปรับปรุงแล้วก็เปิดให้เขา ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับว่า ถ้ามันไม่ระบาดอะไรมาก และยังคงไม่มีการติดเชื้อในประเทศเหมือนทุกวันนี้ มันก็ทันการณ์ แต่ถ้ามันตูมเดียวมามันไม่ทันการณ์ที่จะไปไล่ปิดทีละร้าน เหมือนกรณีสนามมวยที่จะต้องไปไล่เรียกมาทีละคนว่าไปร้านไหนมาบ้าง ฉะนั้น ขอให้หมอ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายความปลอดภัยเขาไปคิดชั่งน้ำหนัก เขาไม่มั่ว ไม่เดา แต่จะเอาสถิติทั้งหมดมาดูล่วงหน้า
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการขยายหรือไม่ขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อไร
นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ยินว่ามีการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากข้อมูลยังน้อยและไม่เพียงพอ อย่าลืมว่าเราเพิ่งผ่อนคลายระยะที่ 4 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2563 จึงยังเร็วไป แต่สัปดาห์นี้ก็ได้ 15 วันแล้ว เขาคงจะได้คุยกัน ในวันที่ 25 หรือ 26 มิถุนายน นี้ เพราะมันได้ตัวเลขที่มากขึ้น