“ชลน่าน ศรีแก้ว” เผยรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวไม่เกิดประโยชน์เห็นผลน้อย จี้ “บิ๊กตู่” จัดการคนหาประโยชน์จากวิกฤติโควิด-19
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ประกาศมาตรการห้ามประชาชนออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 22:00 น.-04:00 น.ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. เป็นต้นไป ว่า
การประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศของรัฐบาล ได้ผลน้อยมาก ทั้งนี้ เพราะพบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เกิดขึ้นภายในบ้าน แล้วการห้ามออกจากบ้านก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร ที่น่าตำหนิ คือ การประกาศเคอร์ฟิว โดยขาดข้อมูลสนับสนุน ยิ่งมาตรการนี้ จะส่งผลให้คนทำงานต้องรีบกลับเกิดการรวมตัวกันของคนหมู่มาก เพราะคนทำงานจะแย่งกันขึ้นรถสาธารณะ เห็นชัดว่า รัฐบาลก้าวตามปัญหามาตลอด หลายมาตรการ จึงไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะเชื้อไปกับคน หากมีการเดินทางร่วมกันของคนจำนวนมาก ก็ไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวด้วยว่า แน่นอนว่า จำนวนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก จะพุ่งมากกว่า 1 ล้านคนแน่ ไม่เหนือความคาดหมาย ดังนั้นหากรัฐบาลอยากจะหยุดการแพร่ระบาด รัฐบาลต้องลดเงื่อนไขให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ เข้ารับการตรวจ โดยค่าตรวจต้องเป็นศูนย์ เพื่อให้สามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากประชาชนทั่วไป ได้อย่างรวดเร็ว
“นอกจากนี้จากปัญหาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลนพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งหาผลประโยชน์ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะจากเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่เกี่ยวกับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นเรื่องที่น่าละอายมาก ที่มีคนกำลังหาประโยชน์กับวิกฤติชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังในการดำเนินการกับผู้หาประโยชน์กับวิกฤติประเทศในยามยากลำบากเช่นนี้” นายแพทย์ชลน่าน กล่าว