ชวน หลีกภัย ย้ำควรแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ส.ว.ไม่ควรมีสัดส่วนทหาร เตือนอย่าจ้องแต่ล้ม และควรหารือทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ว่า ตนเป็นหนึ่งในคนที่ไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เนื่องจากมีประชาธิปไตยน้อยกว่าฉบับที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาไม่ใช่ตัวบทรัฐธรรมนูญ แต่อยู่พฤติกรรมของตัวบุคคล ซึ่งผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องเข้าใจในบริบทนี้ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะฟังความเห็นของบุคคลทุกฝ่ายแม้กระทั่งวุฒิสภา (ส..ว.) เพื่อกำหนดทิศทางว่าหลักรัฐธรรมนูญของประเทศควรจะเป็นอย่างไร และบทบาทของแต่ละฝ่ายควรเป็นอย่างไร
“คิดจะแก้จริง ๆ อย่าคิดว่าจะล้มกันเลย หากอยากจะแก้ต้องให้ทุกฝ่ายเห็นด้วย โดยต้องให้เขามาคุยด้วยว่าเราจะปรับตรงนี้ ประเทศประชาธิปไตยควรจะเป็นแบบนี้ และในส่วนนี้จะเอาออกไป ยกตัวอย่างเช่น ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการสูงสุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องเป็นสมาชิกวุฒิสภา แบบนี้ผมว่าโดยหลักไม่มีการระบุตำแหน่งไว้ชัดเจน ซึ่งต้องมีระบบอื่นในการเลือกบุคคลเข้ามา และประชาธิปไตยไม่ควรกำหนดว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นไปในทิศทางใดขึ้นอยู่กับกมธ. ซึ่งขณะนี้ไม่ควรพูดว่าจะแก้ไขตรงไหน และอย่าไปพูดถึงจะต้องล้มรัฐธรรมนูญ เชื่อว่ากมธ.ที่มาจากหลายฝ่ายจะหารืออย่างจริงจังในเรื่องนี้ สิ่งสำคัญประเทศปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นควรจะเป้าหลักของประชาธิปไตยคืออะไร อำนาจของประชาชนคืออะไร และกำหนดเป็นเงื่อนไขในกฎหมายต่อไป หรือพูดง่ายๆว่าหลายกลุ่มมีปัญหาที่อาจจะกระทบเขา หากมีการพูดคุยและทำความเข้าใจกันได้ความขัดแย้งอาจจะเบาลง จะไปหวังให้ทุกคนเห็นเหมือนกันหมดไม่ได้ แต่ลดลงมาเพื่อให้ได้ข้อยุติที่เห็นต่อประโยชน์ส่วนรวมให้เกิดขึ้น และให้ทุกฝ่ายเห็นด้วยเบื้องต้นก่อน
ส่วนแนวคิดการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อแก้ไขมาตรา 256 นั้น นายชวน กล่าวว่า ต้องปล่อยให้กมธ.ไปแก้ไขกันเอง และไม่สามารถไปกำหนดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กมธ.พิจารณาว่าได้ข้อยุติอย่างไร พร้อมมองว่าควรเชิญทุกฝ่ายมาหรือในเรื่องนี้ไม่เฉพาะส.ว.เท่านั้น
