เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.และหัวหน้าพรรครักประเทศไทยได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ชูวิทย์หายหัวไปไหน? โดยมีเนื้อหาว่า
ทำไมไม่ออกมาพูดเรื่องการเมือง? มีคนฝากถามผมขอชี้แจงแถลงไข เบื่อการเมืองเรื่องกิเลสตัณหาเต็มทน หวังแต่อำนาจบารมี สรรเสริญเยินยอ ซอมบี้เดินล้อมหน้าล้อมหลัง อย่างที่โบราณเขาบอกไว้เป๊ะ “นายว่า ขี้ข้าพลอย”
รัฐธรรมนูญก็คิดแค่จะแก้เพื่อคงอำนาจไว้เท่านั้น หวังให้ได้ตำแหน่งเก้าอี้ในสภาไว้เพื่อรวมไปตั้งรัฐบาล ประดับไว้บูชาให้ชาวบ้านยกมือไหว้ และแดกงบภาษีไปซื้อเบจภาคีคล้องคอ
สมองคิดได้แต่ด้าน “เน็กกาทีฟ” ว่าจะทำลายคู่แข่งทางการเมืองยังไง? หาได้มีเรื่อง “โพสิทีฟ” คิดบวกไม่เป็น เพราะตกเลขแต่เด็ก ถึงทำประโยชน์ให้บ้านเมืองอย่างยั่งยืนไม่ได้สักที ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบหน้าฝน น้ำท่วมทีก็เดินสายทำเท่ห์ อวดศักดา แจกถุงยังชีพ
พอหน้าหนาวก็แจกผ้าห่ม พอหน้าแล้งก็ฝอยเรื่องผันน้ำให้ชาวนา หลอกไปวันๆ ให้ผ่านๆ ไป
ทั้งที่จริง ประเทศไทยทุ่มเงินงบประมาณมหาศาลไปกับ “บูรณาการทางน้ำ” เป็นหลายแสนล้านตลอดระยะเวลา 30 ปี แต่มีหมารุมแดก จนท้ายสุดยังได้แต่ทำลีลา ลิงหลอกเจ้า จวบจนปี พ.ศ. 2564 หามีอะไรเปลี่ยนประเทศไทยเรื่อง “น้ำท่วม น้ำแล้ง” ได้
จึงขอหันไปดูแลสุขภาพดีกว่าเป็นไหน ๆ วิ่งเช้า วิ่งเย็น เพราะอายุเพิ่งครบ 60 ปีบริบูรณ์ เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา
วิ่งแล้วไม่ต้องคิดอะไร วิ่งไปเรื่อย ๆ วิ่งจนกว่าหัวใจจะบอกว่า “พอเถอะ มึงพอได้หรือยัง (วะ) ?
”ใครจำผมไม่ได้ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะผมสั่งทีมงานของผมไว้เสมอว่า
“อย่าบอกชาวบ้านนะโว้ย ว่ากูเป็นใคร”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูวิทย์ แฉต่อ! เบื้องหลังทุกขั้นตอน อดีต ผู้กำกับโจ้ มอบตัว เผยมีดีลกับแบ็คผู้ใหญ่
ธรรมนัส ตัดพ้อ คลิปแนะนำตัวทำประชาชนเข้าใจผิด ลั่นสาระสำคัญไม่ใช่ตรงนั้น
ธรรมนัส ยืนยันลงพื้นที่น้ำท่วม ไม่ได้หวังหาเสียง แค่อยากเข้าใจปัญหาและช่วยเหลือชาวบ้าน