โควิด-19 นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด–19) ว่า ที่ประชุมศบค. ได้เตรียมพร้อม รับมือสถานการณ์โควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาร์ เพราะจากสถิติที่เราได้พบ ประเทศเมียนมาร์มีผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะนี้มากกว่า 10,000 คนแล้ว และแต่ละวันเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 คน/วัน และยังพบว่าบางช่วงเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 1 เดือนที่ผ่านมา ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1,000 เป็น 2,000 และเป็น 4,000 เป็น 8,000 จนกระทั่งเป็น 10,000 คน ซึ่งเราได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ปลัดกระทรวงสธ. กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการอยู่ 2 แนวทาง คือ 1.ควบคุมการเข้าออกระหว่างสองประเทศ โดยบูรณาการร่วมกันทั้งฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง สาธารณสุข โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน 2. กระทรวงสาธารณสุขนำทีมลงตรวจ โดยเฉพาะการใช้ รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ซึ่งเป็นรถพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ลงตรวจในพื้นที่อำเภอแม่สอดจังหวัดตากจำนวน 2,000 กว่าราย แต่ก็ไม่พบผู้ติดเชื้อ ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติอย่างละครึ่ง
นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุขยังได้เตรียมพร้อมเรื่องโรงพยาบาล และสถานบริการทางการแพทย์ การพยาบาลต่างๆ ทุกระดับ รวมถึงการเตรียม อสม.หน้ากากอนามัย ชุดพีพีอี ที่ป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ งบประมาณลงไปในพื้นที่เพื่อให้เกิดความพร้อม
นอกจากนี้ ยังมีการตั้งวอร์รูมขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามสถานการณ์และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะได้เข้าไปสนับสนุนได้อย่างเต็มที่และทันท่วงที ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ทางเมียนมาร์เองก็พร้อมให้การสนับสนุนและประสานงาน ให้ความร่วมมือกับประเทศไทยเช่นกัน
ซึ่งเป็นการรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำความรู้ความชำนาญของประเทศไทยที่มีอยู่ ซึ่งได้รับการยอมรับจากนานาประเทศไปถ่ายทอดให้กับประเทศเพื่อนบ้าน”ปลัดสธ.กล่าว