จากกรณีที่ กกต. ชี้มูลความผิด พรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค 191 ล้านบาท จากนั้น กกต. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ และวันที่ 21 ก.พ. ปี 2563 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค นายธนาธร และกรรมการบริหารพรรค 15 คน ถูกเว้นวรรคทางการเมือง 10 ปี ต่อมา กกต. มีการพิจารณาความผิดทางอาญาของ นายธนาธร และกรรมการบริหารพรรค 15 คน ซึ่งนับตั้งแต่มีคำสั่งยุบพรรค ใช้เวลา 8 เดือน
ล่าสุด กกต. มีมติชี้มูลความผิด นายธนาธร กระทำผิดตาม มาตรา 66 ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.พรรคการเมือง กรณีบริจาคเงินเกิน 10 ล้านบาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ส่วนกรรมการบริหารพรรค 15 คน มีความผิดตาม มาตรา 66 วรรค 2 ประกอบมาตรา 72 ของพ.ร.ป.พรรคการเมือง กรณีรับบริจาคเงินเกิน 10 ล้านต่อปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท โดย กกต. มีคำสั่งให้สำนักงาน กกต. แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีอาญาต่อไป
ขณะที่การยึดทรัพย์ส่วนที่เกินจากเงินบริจาค 10 ล้านบาท ที่กฎหมายกำหนดให้ยึดเข้ามาไว้ในกองทุนเพื่อพัฒนาการเมืองนั้น กกต.ยังไม่ได้วินิจฉัยประเด็นนี้ ซึ่งมีรายงานว่าที่ประชุมมีข้อถกเถียงเป็น 2 ทาง คือ สำนักงาน กกต. เห็นว่า กกต. สามารถสั่งยึดเงินบริจาคในส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาท เข้ามาไว้ยังกองทุนได้ แต่ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ กกต. กลับเห็นว่า กกต. ไม่สามารถยึดเงินนั้นมาไว้ในกองทุนได้ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ไปแล้ว จึงไม่มีพรรคให้ กกต. เรียกเก็บเงินเข้ากองทุน
สำหรับรายชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 15 ราย ที่ถูกดำเนินคดีพร้อมกับนายธนาธร ได้แก่ 1.นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรค น.ส.กุลธิดา จึงรุ่งเรืองเกียรติ นายชำนาญ จันทร์เรือง พล.ท.พงศกร รอดชมภู นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรค นายไกลก้อง ไวทยการ นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ อดีตนายทะเบียนพรรค นายสุนทร บุญยอด นางเยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ นายสุรชัย ศรีสารคาม นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ นายชัน ภักดีศรี น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ และนายนิรามาน สุไลมาน