นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำ เร่งเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดไว้ ยัน ประโยชน์ประเทศอยู่เหนือพรรค
วานนี้ 18 สิงหาคม 2563 เวลา 20.30 น. ที่โรงแรมสุโกศล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในงานเลี้ยงสังสรรค์สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงหนึ่งว่า มาเป็นหัวหน้าพรรคในช่วงที่พรรคเป็นพรรคขนาดกลาง มี 52 เสียง ไม่ใช่ความผิดของใคร เพียงแต่ว่าประชาชนผู้ลงคะแนนในช่วงระยะเวลานั้น อาจจะคิดไม่ตรงกับทิศทางของพรรค เราอาจจะคิดว่าขั่วหลักทางการเมืองมี 3 ขั้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าอาจจะมีแค่ 2 ขั้ว เราจึงไม่สามารถฟันฝ่าขึ้นมาเป็นขั่วที่ 3ได้ ในช่วงระยะเวลานั้น เมื่อพรรคต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ คือตัดสินใจว่าจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้านตอนนั้น ตนในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่เคยชี้นำการตัดสินใจ ได้ให้โอกาสทุกคนได้ตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของพรรคร่วมกัน เมื่อพรรคมีมติว่าควรเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ใช่ขอแค่ได้เป็นรัฐบาล เราได้มีการกำหนดเงื่อนไขชัดเจนในการเข้าร่วมรัฐบาลว่า 1.ต้องรับนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของพรรคประชาธิปัตย์เป็นนโยบายรัฐบาล 2.ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3.ต้องบริหารราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
“ถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นรัฐบาลไม่จัดการก็ถือว่าผิดเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล มาถึงวันนี้ตนคิดว่าเราได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงแม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ได้หลายประการสิ่งที่เรากำหนดเป็นเงื่อนไขประกันรายได้เกษตรกร ตนคิดว่าเราทำได้สำเร็จก้าวหน้าตามสมควรจนเป็นที่มาของคำพูดที่บอกว่าเราทำได้ไว ทำได้จริง เพราะเราใช้ระยะเวลาเข้าร่วมรัฐบาล แถลงนโยบายต่อรัฐบาลวันที่ 25 กรกฎาคมก่อนสิ้นปี เดือนธันวาคน ก็สามารถจ่ายเงินส่วนต่างให้กับพืชเกษตรได้ครบทั้ง5ตัว เป็นสิ่งที่เราพิสูจน์ว่าเราสัญญาอะไรไว้กับประชาชนเราทำในสิ่งที่เราพูด” จุรินทร์ กล่าว
ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลได้บรรจุไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลและได้แถลงต่อรัฐสภาต่อหน้าคนทั้งประเทศว่าจะแก้ไขและธรรมนูญตามเงื่อนไขที่พรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดไว้ วันนี้ก็เริ่มได้ข้อสรุปหลายประการ ถ้าถามว่าทันใจหรือเปล่าก็ต้องตอบว่ายังไม่ทันใจ ที่ประชุมพรรคก็ได้เร่งรัดให้กรรมาธิการไปพูดคุยกันกับกรรมาธิการพรรคการเมืองอื่น ขอให้เร่งหาข้อสรุปในประเด็นไหน อย่างไร และพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนถึงขั้นระบุว่าถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างน้อยที่สุดต้องแก้ไขมาตรา 256 เพราะมาตรา 256 อาจจะเป็นชนวนนำไปสู่การฉีกรัฐธรรมนูญได้ในอนาคต เพราะมาตรา 256เป็นเสมือนกุญแจล็อคประตู ที่จะเปิดสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
การแก้รัฐธรรมนูญจะประสบความสำเร็จได้ประชาธิปัตย์มีจุดยืนให้ชัดแล้ว พรรคร่วมรัฐบาลต้องเป็นพันธมิตร กับประชาธิปัตย์ และที่สำคัญคนไทยทั้งประเทศต้องเห็นด้วย
เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสัมฤทธิ์ผลจริง พรรคจึงได้ 1. มอบให้วิปไปหารือกับพรรคอื่นในเรื่องประเด็นการจัดตั้ง สสร. 2.การพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย 3.ในเรื่องการกระจายอำนาจสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น 4.ระบบการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไขไปสู่ระบบที่สะท้อนเจตนารมณ์ประชาชนได้ตรงไปตรงมาชัดเจน และเปิดทางเลือกให้ประชาชนได้มากกว่าระบบบัตรใบเดียว 5. เราพูดชัดว่าบทเฉพาะกาลต้องนำไปพิจารณาทบทวน รวมทั้งในเรื่องของการดำรงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตป้องกันการทุจริตคอร์รัปชั่น ผลประโยชน์ประเทศต้องเป็นที่หนึ่ง