วานนี้ (19 ธ.ค.) แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Porntip Rojanasunan” โดยระบุเนื้อว่า
“#เรื่องเล่าจากห้องประชุมกรรมาธิการ# วันนี้มีประชุมติดตามการปฏิรูปประเทศที่มีการเรียกร้อง หลังจากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองที่ผ่านมา หลังจากนั้นมีการตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. รวบรวมประเด็นแยกตามหัวข้อการปฏิรูป จากนั้นรัฐบาลก็ตั้งสภาปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.
ทั้งนี้ ประเด็นการปฏิรูปถูกปรับตามที่สมาชิก สปท. สนใจปรับตามนโบายรัฐบาลที่ไม่ให้เสนอประเด็นใหม่แต่ให้เอาประเด็นเดิมมาเลือก หลังจาก สปท. หมดวาระก็มีการตั้งกรรมการปฏิรูป ซึ่งรัฐบาลสั่งให้เอา Quick win ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นง่าย ๆ แทนประเด็นที่สำคัญ ประเด็นจำเป็น หลังเลือกตั้งรัฐธรรมนูญกำหนดบทบาทให้ ส.ว. ทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบเร่งรัด
การปฏิรูป ซึ่งรัฐบาลมอบ สภาพัฒน์ ดูแล ทุกครั้งที่ สภาพัฒน์ มารายงานต่อสภา ก็จะมีข้อมูลว่า “กำลังดำเนินการ” ซึ่งความจริง คือ ยังไม่ได้ทำอะไร หรือยังไม่มีอะไรคืบหน้าจากหน่วยงาน มาวันนี้นโยบายรัฐบาลเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อต้นเดือนธันวาคม มองไปมองมาเหมือนการซื้อเวลา หน่วยงานรัฐส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ นายไม่สั่งก็ไม่ขับเคลื่อน ไม่มีงบไม่ให้งบก็ไม่ต้องทำอะไร
บางหน่วยเสนอโครงการแผนงานตามแนวทางการปฏิรูปก็ถูกลด และตัดงบประมาณ โดย ส.ส. สภาพการเมืองที่มีแต่การประลองกำลัง เพลี้ยงพล้ำไปมา ประชาชนจึงไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้ วันนี้ได้เล่มใหม่มา รีบเปิดดูด้านกระบวนการยุติธรรมไม่พบสาระสำคัญดี ๆ แต่อย่างใด
บทเรียนกรณีฆาตกรต่อเนื่อง สมคิด พุ่มพวง ที่สะท้อนปัญหาทั้งเรื่องกระบวนการยุติธรรม เรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดและปัญหาสังคมจะไม่สามารถปฏิรูปใด ๆ ได้เลย น่าสนใจว่าการดำเนินคดีที่ผ่านมา ใช้หลักฐานอะไร ทำไมการรับสารภาพจึงเป็นประโยชน์ส่งผลให้ลดโทษ ทำอย่างไรภารกิจของราชทัณฑ์จะมีโอกาสวินิจฉัย รักษา บำบัด ฟื้นฟู วิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาทางควบคุมและป้องกันการกลับมากระทำผิดซ้ำ ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถทำอะไรได้เลย นักโทษยาเสพติดล้นคุก จนทำได้เพียงการระบายนักโทษออกจากเรื่อนจำ
การขาดระบบฐานข้อมูลกลางที่ไม่ได้ขาดข้อมูล แต่เป็นเพราะการหวงข้อมูล การไม่ยอมบูรณาการกัน นำไปสู่ความผิดพลาดในการลดโทษ รวมถึงการปล่อยตัว เล่ามาก็ด้วยความรู้สึกห่วงไย ไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้หรือไม่”