อนุสรณ์ ซัด มาตรการของรัฐบาล ล่าช้ากว่าการแพร่ระบาด ไวรัสโควิด-19 ไปเกือบเดือน แนะเร่งแก้ 3 ปัญหาหลัก เพิ่มประสิทธิภาพ ตัดสินใจให้เร็ว และคุมหน้ากากอนามัย-เจลแอลกอฮอล์ให้ได้ จวกเรื่องกักตุนก็ยังไม่ได้ข้อสรุป!
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ว่า จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถวิเคราะห์หรือประเมินแบบจำลองสถานการณ์ได้ว่า วิกฤติไวรัสโควิด-19 จะไปจบลงตรงไหน จะใช้เวลาจากนี้ไปอีกนานเท่าใด มาตรการปิดสถานศึกษา สนามมวย สนามกีฬา สถานบันเทิง ใน กทม.และปริมณฑล 14 วัน เป็นมาตรการสกัดไวรัสระบาดที่อาจดูเบาและช้าเกินไป ถ้าคิดได้เร็วกว่านี้ รีบออกมาตรการปิดสนามมวยได้เร็ว ป่านนี้จำนวนผู้ติดเชื้อจากสนามมวย คงไม่แพร่ระบาดไปทั่วประเทศมากขนาดนี้ หรือแม้แต่การตั้งศูนย์โควิดของรัฐบาล ก็ยังตั้งช้าไปเกือบเดือน มีทั้งศูนย์โควิดที่ทำเนียบ และที่กระทรวงสาธารณสุข ไม่รวมศูนย์ ไม่บูรณาการ ทำให้เกิดการเดินทางไปมาของผู้คนจำนวนมาก
นายอนุสรณ์ ยังแนะนำปัญหาหลักที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ในขณะนี้ คือ
1.ปัญหาการไร้ประสิทธิภาพ ในแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19
2.รัฐบาลตัดสินใจช้าแทบทุกกรณี และ มีแนวโน้มว่าถ้าไม่แก้ไข จะช้ากว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไปเรื่อยๆ
3.รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหา หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ไม่เพียงพอ และข่าวคนในรัฐบาลที่เข้าไปเกี่ยวข้องกักตุน ปัจจุบันก็ยังไม่ได้ข้อสรุป
ทั้งนี้ แนวโน้มของสถานการณ์จะเป็นอย่างไร และจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นอีกพันคน หรือหมื่นคน ระยะเวลาที่ต้องต่อสู้ให้ปัญหาจบ จะยาวหรือสั้น อยู่ที่ฝีมือการบริหารจัดการของรัฐบาล ถ้าตีโจทย์ถูกก็สั้นลง ตีโจทย์ผิดก็ยาวขึ้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า วิกฤติไวรัส รุนแรงไม่แพ้วิกฤติภาวะผู้นำ รัฐบาลพูดอะไร ประชาชนจะทำตรงกันข้ามเสมอ เช่น บอกว่าอย่ากักตุนอาหาร ประชาชนก็จะแห่ไปกักตุน แต่หวังว่า รัฐบาลคงไม่ปฏิเสธความหวังดีของพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน ชนิดที่ฝ่ายค้านบอกอะไร รัฐบาลก็จะทำตรงกันข้าม ไม่ต้องเชื่อพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ได้ แต่ควรรับฟังในฐานะประชาชนร่วมชาติ ที่มีบุคลากรทางการเมืองของพรรค เคยฝ่าวิกฤติกำราบโรคซาร์ส-ไข้หวัดนกจนอยู่หมัดมาแล้วก็ได้