กมธ.วิสามัญ วันที่ 1 มิถุนายน 2563 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการยื่นหนังสือต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้บรรจุญัตติ ขอให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ ของพรรคการเมืองต่างๆ ว่า ถ้าดูทิศทางและท่าทีของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ออกมายืนยันว่าไม่ขัดข้องที่จะให้มีการตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับนั้น นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีทางการเมือง ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจของแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ที่อาจจะเปลี่ยนใจยินยอมให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ขึ้นได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐหลายคนออกมาคัดค้าน และขัดขวางการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ โดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา เช่น จะเป็นการซ้ำซ้อนกับคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร หรือเป็นการสิ้นเปลืองเบี้ยประชุม หรือห้องประชุมของคณะกรรมาธิการไม่เพียงพอ รวมถึงการอ้างถึงหน่วยงานตรวจสอบอย่าง ปปช. ปปท. สตง. สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ข้ออ้างดังกล่าวเป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะการตรวจสอบของหน่วยงานราชการ แตกต่างกับการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสิ้นเชิง การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามและตรวจสอบการใช้ พ.ร.ก.กู้เงิน นั้น สามารถแต่งตั้ง ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ตัวแทนองค์กรต้านคอร์รัปชัน ตัวแทนภาคประชาสังคม ตัวแทนสื่อมวลชน เข้าร่วมได้ ทำให้การใช้เงินกู้จำนวน 1.9 ล้านล้านบาท มีประสิทธิภาพ ไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ถ้าหากรัฐบาลมีความจริงใจและบริสุทธิ์ใจในการใช้เงินกู้ดังกล่าว ก็ควรที่จะสนับสนุน ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการพิสูจน์ความโปร่งใสในการทำงานของรัฐบาล ที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่กล่าวอ้างกันว่า เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง
“อยากจะให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณไปยังแกนนำพรรคพลังประชารัฐ และวิปรัฐบาล เพื่อมีมติยินยอมให้มีการเสนอญัตติ เพื่อจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม ตรวจสอบการใช้เงินของ พ.ร.ก.กู้เงิน 3ฉบับได้ เพราะในขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค หรือแม้แต่สมาชิกพรรคพลังประชารัฐบางส่วนก็เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญในครั้งนี้แล้ว” นายเทพไท กล่าว