วันที่ (3 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นำสำนวนการสอบสวน พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องคดีร่วมกันชุมนุม โดยฝ่าฝืนกฎหมาย หรือแฟลชม็อบ ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหา มาส่งให้อัยการคดีศาลแขวงปทุมวันพิจารณา เพื่อมีความเห็นต่อไป
ด้าน นายกกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายธนาธร กับพวก 5 ข้อหาประกอบด้วย 1. ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2. ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3. ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ 4. ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5. ชุมนุมในรัศมีใกล้เขตพระราชฐาน 150 เมตร
ทั้งนี้ หากผู้ต้องหาทั้งหมด ยืนยันต่อสู้ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่า การชุมนุมครั้งนี้เป็นการพบปะประชาชนไม่ใช่เป็นการชุมนุมทางการเมือง ส่วนการใช้เครื่องขยายเสียง ก็เปรียบเสมือนกรณีนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พบประชาชน โดยหลังจากรับสำนวนสอบสวน อัยการจะมีเวลาพิจารณาสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีว่า จะสั่งฟ้อง สั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในประเด็นที่ยังสงสัย ภายใน 7 วัน หากอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ก็จะนัดผู้ต้องมาส่งฟ้องต่อศาลแขวงปทุมวันต่อไป
โดยผู้ต้องหาในคดีนี้ มีทั้งหมด 8 คน วันนี้พนักงานสอบสวนนำตัวส่งอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 5 แล้ว 4 คน คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ,นายไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 5 นครปฐม ,นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ,นายธนวัฒน์ วงค์ไชย แกนนำกลุ่มวิ่งไล่ลุง นอกจากนี้ น.ส.ณัฏฐา มหัธนา หรือ โบว์ พนักงานสอบสวนนัดให้มาพบกับพนักงานอัยการช่วงบ่าย
สำหรับอีก 3 คน ประกอบด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค อนาคตใหม่ และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคอนาคตใหม่ ที่ยังคงใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองการเป็น ส.ส. ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจการประชุมสภา
นายธนาธร กล่าวว่า ตนยืนยันจะเดินหน้าลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในลักษณะนี้เหมือนเดิม โดยไม่เบื่อที่จะขึ้นศาลหรือถูกดำเนินคดี เพราะสิ่งที่ทำอยู่เป็นเสรีภาพ และเป็นดำเนินการคู่ขนานกับการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในรัฐสภา เบื้องต้นอัยการนัดฟังคำสั่งคดี ในวันที่ 7 ก.พ. นี้ เวลา 9.00 น.