อดีตบิ๊กข่าวกรอง นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัวเกี่ยวกับกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่ถูกอุ้มหายที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา โดยระบุว่ามีการบิดเบือนกรณีอุ้มวันเฉลิม โดยมีขบวนการที่พยายามปั่นกระแสเรื่องการอุ้มนายวันเฉลิมเพื่อล้มรัฐบาล และเปรียบกรณีของนายวันเฉลิมเหมือนกรณีของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสี ที่ถูกตำรวจใช้เข่ากดคอจนเสียชีวิตสหรัฐฯ
อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง ยังบอกด้วยว่าสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือมีการใส่ร้ายว่าสถาบันอยู่เบื้องหลังการหายตัวไปของนายวันเฉลิม ทั้งยังกล่าวด้วยว่าหากนายวันเฉลิมไม่มีความผิดจริงก็ต้องพิสูจน์ความจริง ถ้ามีความมั่นใจจริงก็ไม่จำเป็นต้องหนี
“ข่าวเรื่องการอุ้มวันเฉลิม ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ทางการกัมพูชายืนยันว่าเป็นเรื่องกุขึ้น แถมเรียกร้องให้ญาติของวันเฉลิมแจ้งความในพนมเปญ รวมทั้ง ไม่รับหนังสือร้องเรียนเรื่องวันเฉลิมที่มีผู้ไปยื่นที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา กทม.
ที่ต้องหยิบมาเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะความไม่ชัดเจนว่า ถูกอุ้มจริงมั้ย อุ้มทำไม สาเหตุการอุ้ม วันเฉลิมหายหรือตายไปใครจะได้ประโยชน์
แต่มันมีขบวนการที่จะพยายามปั่นกระแสอุ้มวันเฉลิมเพื่อล้มรัฐบาล เรียกร้องให้ลุงตู่ต้องรับผิดชอบต่อการหายตัวไปของวันเฉลิม พยายามเปรียบกรณีวันเฉลิมให้ใหญ่โตเหมือนกรณีจอร์จ ฟลอยด์ที่ถูกเข่ากดคอจนตาย พูดง่ายๆ มีคนอยากปลุกระดม ชักชวนคนไทยให้ชุมนุมต่อต้านลุงตู่แบบที่เกิดขึ้นในอเมริกา แต่มันแป๊ก คนไทยไม่เออออด้วย คนมาชุมนุมนับหัวได้ จุดไม่ติด
ขอย้ำอีกครั้งหนึ่ง วันเฉลิมหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศด้วยความกลัวความผิดคดีเอาข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ความผิดไม่ได้ใหญ่โตอะไร ก็พิสูจน์สิว่า ข้อมูลที่โพสต์ในคอมพิวเตอร์ไม่ใช่ข้อมูลเท็จ แต่เป็นความจริง ง่ายๆ ถ้ามั่นใจ ไม่ต้องหนี
แต่ที่ทนไม่ได้
และคิดว่า มีคนไทยอีกจำนวนมากไม่ทนเหมือนกันคือ การที่ขบวนการต่อต้านสถาบัน
ใส่ร้ายสถาบันว่าอยู่เบื้องหลังอุ้มฆ่าวันเฉลิม ด้วยวิธีการเก่าๆ
ป้อนข้อมูลบิดเบือนให้สื่อ องค์กรในต่างประเทศ
แพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนใส่ร้ายสถาบัน องค์การในต่างประเทศ Pixel Helper เปิดประเด็นเรื่องนี้
และกล่าวหา
สถาบันฯ
ขอเรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้การ ใส่ร้ายบิดเบือน เอาคนที่เกี่ยวข้องมาลงโทษ