เยาวชนปลดแอก ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย เชิญชวนประชาชนให้ออกมาแสดงพลังในการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคมนี้ โดยระบุว่า ไม่มีเวลาไหนอีกแล้วที่สำคัญไปกว่าเวลานี้ หากคุณต้องการเปลี่ยนแปลงปลดโซ่ตรวนจริงๆ 14 ตุลาคมนี้ จงออกมาร่วมกันอย่างมหาศาล
เปิดกลอน คณะราษฎร 2563 เตรียมขับขานรับ ขบวนเสด็จ ม็อบ 14 ตุลา
คณะราษฎร ยืนยัน ม็อบ 14 ตุลา ไม่ขวางขบวนเสด็จ! ชู 3 นิ้ว อย่างสันติ
เพราะการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จ ล้วนมาจากมวลชนที่หลั่งไหลกันมาอย่างมหาศาล เช่นการเดินขบวนประท้วงนับแสนในปี 1987 ของคนเกาหลีใต้เพื่อโค่นล้มเผด็จการชอน ดูฮวาน(Chun Doo-hwan) ผู้กระทำการรัฐประหารและได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี จนส่งผลให้นักศึกษาและประชาชนรวมกลุ่มกันเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมือง พูดถึงเรื่องปากท้องประชาชน ค่าแรงขั้นต่ำ การถูกลิดรอนสิทธิจากรัฐบาลเผด็จการ กลุ่มนักศึกษาต้องการเสรีภาพในการแสดงออก ระบอบการปกครองที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ โดยคำกล่าวที่สะท้อนภาพชีวิตของประชาชนชาวเกาหลีใต้ได้ดีที่สุดคือ
จับตา! เมื่อกลุ่มการเมืองประชาธิปไตย ร่วมม็อบ 14 ตุลา ในนาม คณะราษฎร 2563
“เจ็ดปีที่เขาเป็นผู้นำ คือช่วงเวลาที่ทุกข์ทรมานของพวกเราชาวเกาหลีใต้”
การชุมนุมของนักศึกษาและประชาชนของเกาหลีใต้ในครั้งนั้น มีคนเข้าร่วมนับแสนคน และภายหลังจากได้รับชัยชนะ การพัฒนาของเกาหลีใต้ก็พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด และมีประชาธิปไตยที่แข็งแกร่งที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
เมื่อตัดกลับมาที่บ้านเรา ในตอนนี้นั้น ประเทศไทยแทบไม่ต่างจากช่วง 30 ปีที่แล้วของเกาหลีใต้ พลเอกประยุทธ์และรัฐบาลสืบทอดอำนาจได้บริหารเศรษฐกิจอย่างล้มเหลว ใช้กฎหมายกำจัดผู้เห็นต่างไปนับไม่ถ้วน เขียนรัฐธรรมนูญอันบิดเบี้ยวที่เป็นไปเพื่อเอื้อพวกพ้องของตนเอง ขยายพระราชอำนาจของกษัตริย์ให้ยิ่งออกห่างจากครรลองของระบอบประชาธิปไตย
เป็นเวลากว่า 6 ปีแล้วที่เราต้องทนอยู่ เราจะทนไปอีกนานเท่าไหร่กัน? ถ้าคณะรัฐประหารซึ่งสืบทอดอำนาจจนแปลงกลายมาเป็นรัฐบาลในปัจจุบันยังคงอยู่ ลูกหลานของเราต้องมารับความเลวร้ายที่เขาไม่ได้ก่อ พอกันทีหรือยัง 14 ตุลาคมเป็นต้นไป! ออกมาโค่นล้มเผด็จการศักดินา ให้รู้กันไปว่า ไม่มีสิ่งไหน ยิ่งใหญ่กว่าพลังของประชาชน
อย่าปล่อยให้ยุคมืดของประเทศไทยยาวนานไปกว่านี้เลย 14 ตุลาคมนี้! มาร่วมเรียกร้องอนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน