ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษก อนาคตใหม่ ยันนัดหมายสกายวอล์คเย็นนี้ไม่ต้องแจ้งตร. ชี้แค่งานรณรงค์ไม่ใช่ม็อบ พร้อมเสริมทีมทนายความ 2 เท่าสู้คดี
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึง การจัดกิจกรรม “เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง” ที่บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน เวลา 17.00 น.ว่า พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ขออนุญาตหรือประสานไปยังสน.ปทุมวัน เพราะเป็นการจัดกิจกรรมทางเมืองตามปกติ ไม่ใช่การนัดชุมนุม ซึ่งกิจกรรมในวันนี้คล้ายการรณณรงค์ยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่เคยทำมา โดยกิจกรรมครั้งนี้ต้องการให้ประชาชนออกมาส่งเสียงของตนเอง ด้วยการเขียนข้อความลงบนกระดาษโพสอิท เป็นการสะท้อนความคิด ความรู้สึก บนพื้นฐานประชาธิปไตยที่สามารถทำได้ ยืนยันว่าการจัดกิจกรรมต้องการรับฟังเสียงของประชาชนว่า เห็นอย่างไรกับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพรรคอนาคตใหม่ อาจจะมีคนเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็ได้
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมสู้คดีหลัง กกต.ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่กรณีการกู้เงินนั้น พรรคได้มีการเพิ่มทีมกฎหมายเข้ามา พร้อมระดมนักกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญในคดีการเมืองมาเสริม ซึ่งการเพิ่มทีมกฎหมายไม่เฉพาะเพียงสู้คดีเงินกู้เท่านั้น แต่พรรคอนาคตใหม่ยังมีอีกหลายคดีที่ต้องรับมือ
“จากนี้พรรคอนาคตใหม่จะปักธงสู้ ที่ผ่านมาทีมกฎหมายของเราตั้งรับเมื่อถูกฟ้องคดีก็ไปดำเนินการว่าความตามขั้นตอน แต่ตอนนี้เพิ่มทีมกฎหมายเป็น 2 เท่า เพื่อที่จะฟ้องกลับด้วยไม่ใช่การเล่นเกมรับ แต่เราจะเล่นเกมรุกด้วย ยืนยันว่า พรรคอนาคตใหม่จะเดินหน้าฟ้องกลับ กกต.ทุกกรณี ทุกช่องทางเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการข้ามขั้นตอน ลัดขั้นตอนในการทำสำนวนคดีของพรรคอนาคตใหม่ สิ่งที่อยากฝากไปยัง กกต. คือ ขอให้ดำเนินการตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐด้วย ว่ามีบริษัทใดให้หลายบริษัทลูกหลายพรรคบริจาคเงินบริษัท แบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่” นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา กล่าวอีกว่า หลังจากคืนวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมามีการประชุม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ทุกคนมีกำลังใจดี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะจับมือกัน ถึงแม้วันนี้อาจจะมีงูเห่าบ้าง ก็จะสู้ไปด้วยกัน ถึงจะจับมือไปไม่ครบ 80 คน แต่ยังคงเป็นพรรคการเมืองลำดับที่ 3 ของประเทศแน่นอน และเชื่อมั่นว่าเรื่องนี้จะได้รับการยกฟ้องเหมือนพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญยกฟ้องเนื่องจากเห็นว่า กกต.ทำข้ามขั้นตอน เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ กกต. ดำเนินการหลายอย่างข้ามขั้นตอน พร้อมยอมรับว่า พรรคมีการเตรียมการแต่ขณะนี้ยังไม่มีการตั้งพรรคสำรอง