นาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ม.ค.64 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวความว่า “เรามีรัฐบาลที่โหนเจ้าและเกาะเชื้อโรคเพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ ส่งลูกไปเที่ยวห้างได้แต่ส่งไปโรงเรียนไม่ได้ กับอีกหลายมาตรการรับมือโควิด-19 ของรัฐบาลเฮงซวยที่มีแต่ความลักลั่น” นั้น
การโพสต์ข้อความดังกล่าว ชี้ให้เห็นถึงการมี “เจตนา” ที่จะใช้ข้อความดังกล่าว ให้บุคคลที่สามหรือผู้ที่เห็นหรืออ่านข้อความรู้สึกเกลียดชังรัฐบาล เนื่องจากคำว่า “เฮงซวย” เป็นคำผรุสวาทที่วิญญูชนทั่วไปต่างเข้าใจดีว่าเป็นคำหยาบ ซึ่งมีความหมายในทางเสื่อมเสีย การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนดังกล่าว ซึ่งถือว่า เป็นผู้ทรงเกียรติ ได้เขียนโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กสื่อสาธารณะโดยใช้คำว่า “เฮงซวย” เพื่อประจานรัฐบาลให้ปรากฏต่อสาธารณะ จึงเป็นถ้อยคำที่เป็นการดูถูกเหยียดหยามและสบประมาทรัฐบาลของประเทศ
การกระทำดังกล่าวจึงอาจเข้าข่ายเป็นความผิด ฐานหมิ่นประมาท และหรือดูหมิ่นผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม.136 ม.326 และหรือ ม.393 โดยชัดแจ้ง ซึ่งลักษณะดังกล่าวมีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วหลายคำพิพากษา อาทิ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1623/2551, คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3920/2562 เป็นต้น ซึ่งการด่ารัฐบาลนั้น เคยมีการตีความว่า รัฐบาลเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ คำพิพากษาของศาลฎีกาเลขที่ 3578/2560เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังอาจเข้าข่ายความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม 2560 ม.14(2) ซึ่งต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และที่สำคัญคือ การฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ 2563 ข้อ ข้อ 9 ข้อ 10 ข้อ 11 และข้อ 12 ที่ระบุไว้ชัดแจ้งว่า ส.ส.ต้องไม่แสดงกิริยาหรือ ใช้วาจาอันไม่สุภาพ มีลักษณะเป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท เสียดสีหรือใส่ร้ายป้ายสีบุคคลใด
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงนำความส่งคำร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อมอบให้คณะกรรมการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎร ทำการไต่สวน สอบสวน และลงโทษตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ 2563ประกอบมาตรฐานจริยธรรม ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.219 ต่อไป