เฟซบุ๊คพรรค ก้าวไกล โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ประเด็นเกี่ยวกับนายจ้างฉวยโอกาสเลิกจ้างแรงงาน โดยระบุว่า
“เมื่อวาน พี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงานและพนักงานบริษัทได้มายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการแรงงาน เพื่อให้คณะกรรมาธิการพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือจากการที่นายจ้างฉวยใช้โอกาสจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ในการเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งเล่ห์กลที่ใช้มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ
เช่น กรณีบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ใช้วิธีให้ลูกจ้างเขียนใบลากิจแล้วไม่จ่ายค่าจ้างในช่วงเดือนเมษายน และเลิกจ้างพนักงานที่อยู่ในช่วงทดลองงาน หลังจากนั้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ยังได้เรียกพนักงานที่มีอายุงานตั้งแต่ 6-10 ปี มารับข้อเสนอเลิกจ้างโดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือในอัตราคนละ 30% ของค่าจ้างจำนวน 72 วัน และสำหรับพนักงานที่มีอายุงาน 3-5 ปี จ่ายในอัตรา 30% ของค่าจ้าง แต่จ่ายแค่จำนวน 54 วัน และบีบให้ทุกคนต้องเขียนใบลาออก แล้วถ้าใครขัดขืนไม่เขียนใบลาออก ทางบริษัทขู่ว่าจะใช้มาตรการปิดงานชั่วคราว ด้วยเหตุสุดวิสัย
โดยผลักภาระไปให้สำนักงานประกันสังคมเป็นผู้จ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานด้วยเหตุสุดวิสัย ในอัตราร้อยละ 62 จำนวน 90 วันตั้งแต่เดือนเมษายนแทน ทั้งนี้พี่น้องแรงงานในบริษัทดังกล่าว ยังมีความกังวลด้วยว่า บริษัทใช้สิทธิปิดกิจการชั่วคราวด้วยเหตุสุดวิสัย ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และลูกจ้างแรงงาน ยังต้องติดขั้นตอนการวินิจฉัยว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือไม่ ซึ่งก็จะยังไม่ได้รับเงินเยียวยาใดๆ
อีกกรณีตัวอย่างหนึ่งคือ ความพยายามลดอำนาจการต่อรองจากแรงงานจากการรวมกลุ่มกันเป็นสหภาพแรงงาน โดยข้อเท็จจริงคือแรงงานจากบริษัทชิ้นส่วนยานยนต์จำนวน 94 คนถูกเลิกจ้างทั้งหมดทั้งๆ ที่ไม่มีประวัติเสื่อมเสียในการทำงานและบริษัทยังไม่เคยมีแผนการหรือการบอกกล่าวการเลิกจ้างมาก่อนล่วงหน้า ที่น่าแปลกใจคือแรงงานทั้ง 94 คน ล้วนเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานฯ และเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด
นอกจากนี้ แรงงานที่ยังไม่ถูกเลิกจ้างอีกจำนวนหนึ่งที่ยังเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานอยู่ ก็มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างด้วย ทำให้ภายหลังจากมาตรการดังกล่าว ทำให้แรงงานต่างทยอยกันมาลาออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพกันเป็นจำนวนมาก
แต่บริษัทได้อ้างการปลดพนักงานว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกและโรคระบาดโควิด-19 กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงเป็นอย่างมาก ส่งผลต่อคำสั่งซื้อชิ้นส่วนในการประกอบยานยนต์ได้รับผลกระทบตามมา ทั้งๆที่จากการตรวจสอบผลประกอบการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่าผลประกอบการบริษัท ยังไม่ได้อยู่ในสถานะขาดทุนจนต้องปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนการผลิตแต่อย่างใดและกระบวนการผลิตก็ยังคงดำเนินอยู่ตามปกติ
เหล่านี้คือตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงที่พี่น้องประชาชนในภาคแรงงานได้รับผลกระทบ และยังต้องประสบปัญหาความเครียดจากการถูกเลิกจ้างงานและกังวลว่าจะไม่ได้รับเงินเยียวยาจากการเลิกจ้าง พูดให้ถึงที่สุดปัญหาเหล่านี้นอกจากเป็นปัญหาความไม่เป็นธรรมในการเลิกจ้างงานแล้วนั้น ปฏิเสธได้ยากว่านี้คือผลจากคำสั่งและมาตรการของรัฐบาล
ทั้งประกาศกระทรวงแรงงานเรื่องเหตุสุดวิสัย และการประกาศปิดสถานประกอบการต่างๆ ของรัฐบาล ความละเลย เพิกเฉยต่อหน้าที่ในการช่วยเหลือเยียวยาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่แจกจ่ายอย่างไม่ถ้วนหน้า เหล่านี้คือราคาที่ประชาชนหาเช้ากินค่ำเป็นผู้จ่าย ทั้งการจ่ายเป็นคราบน้ำตา ความหิวโหย ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นสำหรับบางคนต้องจ่ายด้วยชีวิต
ด้วยเหตุนี้จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน พี่น้องผู้ใช้แรงงานร่วมกันฟังคำอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล ที่จะสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคนทำงานในการประชุมสภา พร้อมกันนี้ยังได้เสนอแนะนโยบายการเยียวยาที่ถ้วนหน้าเท่าเทียม และมาตรการการรักษาการจ้างงาน ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ หากรัฐบาลรับฟังและน้อมรับไปปฎิบัติจะก่อประโยชน์สูงสุดให้แก่พี่น้องประชาชนทุกท่านอย่างแน่นอน
ปีกแรงงาน พรรคก้าวไกล