พรกฉุกเฉิน เพจ CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์ความเห็นของ คำผกา นักเขียนและพิธีกร ระบุว่า “รัฐบาลภายใต้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉิน โดยอ้างสถานการณ์รุนแรงของโควิด 19 มาตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 โดยมีอายุ 1 เดือน
ซึ่งใน 1 เดือนนั้นสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยคลี่คลายลงมาก ไม่นับว่ากว่า 20 จังหวัดในประเทศไทย ตัวเลขผู้ติดโควิดเป็น 0 มายาวนานเกิน 1 เดือน ก็ต้องมาอยู่ภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน กับเขาไปด้วย
ทั้งที่สถานการณ์ดีขึ้น แต่รัฐบาลกลับตัดสินใจต่ออายุ พรก. ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน โดยอ้างว่า การ์ดอย่าตก ไม่ประมาท หากหละหลวมจะเกิดการระบาดระลอกสอง ทั้งๆที่มาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดโควิด 19 นั้นสามารถทำได้โดยกฎหมายปกติที่มีอยู่แล้ว และไม่มีข้อพิสูจน์อันใดที่ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ที่ดีขึ้นของโควิด 19 เกี่ยวข้องกับการมี พรก.ฉุกเฉิน และการประกาศเคอร์ฟิว อย่างมีนัยสำคัญ
มิหนำซ้ำ พรก.ฉุกเฉิน เป็นกฎหมายพิเศษที่ไม่ควรถูกนำมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย โดยไม่จำเป็น เพราะเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจกับฝ่ายบริหารโดยปราศจากการตรวจสอบถ่วงดุลย์จากฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการ
เป็นกฎหมายที่ผู้ออกคำสั่งโดย พรก. นี้ไม่ต้องมีความรับผิดชอบทางปกครองโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงเป็นกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ และ อำนาจของประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ
ผลกระทบที่เห็นเป็นรูปธรรม มีทั้งการเซ็นเซอร์สื่อ การควบคุมเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง การให้อำนาจฝ่ายบริหารอย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดคำสั่งและประกาศที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตการทำมาหากิน คุณภาพชีวิตของประชาชน การศึกษาของเยาวชน โดยที่ผู้ได้รับผลกระทบไม่อาจเรียกร้อง คัดค้าน ต่อรอง หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในคำสั่งและประกาศต่างๆ
ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 ที่ประเทศไทยเข้าสู่สถานะปกติดังที่เราเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็น 0 มาต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์ วันนี้ 22 มิถุนายน 2563 ประเทศไทย ไม่มีผู้ป่วยในประเทศมาครบ 28 วัน ตามเกณฑ์ที่ใข้วัดความสงบของโรค
ดังนั้นเราไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ พรก.ฉุกเฉิน เลย ย้ำ เราไม่มีความจำเป็นต้องคง พรก.ฉุกเฉิน เอาไว้เลย ไม่ว่าจะพิจารณาจากแง่มุมใดก็ตาม
การคงอยู่ของ พรก.ฉุกเฉิน ที่ยาวนาน เกิน 1 เดือน ในสถานการณ์ปกติ ทำลายความเชื่อมั่น บรรยากาศการลงทุน ทำร้าย เศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง และสำคัญที่สุด ทำลายหลักการประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ สิทธิพลเมือง
“พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” คือการยึดอำนาจรัฐสภา : ยึดอำนาจประชาชน!”