นาย กนก รัตน์วงศ์สกุล พิธีกรข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กโดยระบุว่า
ทุกประเทศมีกฏกติกา การอยู่ร่วมกัน เรียกว่า “กฎหมาย” ผู้ที่จะตัดสินว่าผิดกฎหมายหรือไม่ คือ “ตุลาการ” ไม่ใช่ “คนทำ”
หลังจากวันนี้ ไม่รู้จะสำนึกหรือยังว่า ที่ตีความเอาเองว่าไม่ผิดนั้น “มันผิด”
จะบอกว่า “ทำในสิ่งที่กฎหมายไม่ได้ห้าม” แล้วไม่ผิดนั้น “ไม่ถูก”
เพราะ “ไปทำ” ในสิ่งที่กฎหมาย “ไม่ได้ให้ทำ”
เมื่อมาตรา 62 กำหนด 7 ช่องทางรายได้ของพรรคเอาไว้ ไม่มีเรื่องการกู้เงิน แล้วพรรคดันไปกู้เงินตั้ง 191 ล้าน 2 แสนบาท
กกต.จึงตีความว่า เงินนั้นเป็น “เงินบริจาค” ให้พรรค
มาตรา 66 ห้ามมิให้บริจาคเงินให้พรรคเกิน 10 ล้าน ตัวเลข 191,200,000 บาท เกินเห็นๆ !
มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ดูดีๆ มาตรา 72 นี้ ห้ามทั้ง “พรรค” และ “คนในพรรค” ถ้าฝ่าฝืนข้อนี้..
มาตรา 92 ให้ “ยุบพรรค” และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น !
ยังมี มาตรา 124 ใครไม่ปฏิบัติตามมาตรา 66 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น 5 ปี
โดนซ้ำโดนซ้อน..หลายเด้ง !
อย่าไปโทษคนอื่นว่ากลั่นแกล้ง กฎหมายตราไว้ก่อนเห็นๆ แต่ดันไปทำ
ให้โทษ “กุนซือกฎหมาย” ที่ “มั่นใจเกินเหตุ”
เป็นคนหนุ่มสาวไฟแรง..อาสาพาประเทศชาติไปสู่สิ่งที่ (ตนเองคิดว่า) ดีกว่า ถือว่าดี
ถ้าไม่เรียกลุงป้าน้าอา ไม่นับอาวุโส ตามที่สังคมไทยให้เกียรติกันมานั้น.. ไม่งาม แต่ก็ไม่ผิดกฎหมาย
แต่ถ้า..หนุ่มสาวไฟแรง ไปทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย..!! มันไม่ใช่แค่ยุบพรรค หรือหมดสิทธิเล่นการเมืองเท่านั้น
ลำพังยุบพรรค เดี๋ยวก็ไปตั้งพรรคใหม่ได้ คนมันไม่เดือดร้อนเรื่องเงินซะอย่าง (เหมือนทักษิณ)
แต่มันมีโทษ “ติดคุก” นี่สิ..
ไฟยังแรงพอยืนหยัดไปฟังคำตัดสินของศาลหรือไม่ ?? หรือคิดว่า พรรค..คือการเดินทาง..?
ดูการเดินทางของทักษิณ กับยิ่งลักษณ์สิครับ..
เอวัง..ก็มีด้วยประการฉะนี้
“วันพระ”
วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๒
ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย (๑) ปีกุน