มนัญญา ชี้ ม็อบ 2,000 คน ออกมากดดัน ไม่มีผลอะไร ย้ำทุกอย่างต้องดำเนินไปตามกฎหมาย วอนฟังมติคกก.วัตถุอันตรายพรุ่งนี้
จากกรณีที่วันนี้ (26 พ.ย.) กลุ่มเกษตรกร กว่า 2,000 คน ออกมาคัดค้านการแบน 3 สารเคมีอันตราย ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ โดยได้ยื่นหนังสือคัดค้านการแบน 3 สารเคมี ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ทบทวนมติการแบนสารเคมีดังกล่าว โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมารับหนังสื่อร้องเรียนจากกลุ่มดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่สร้างความเดือดร้อนอย่างร้ายแรงให้แก่เกษตรกรทั้งประเทศตนนำมาสู่การชุมนุมคัดค้าน
ล่าสุด น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้วการที่มีม็อบคัดค้านการแบนสารพิษมากดดันไม่มีผลต่อการประชุมของคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันพรุ่งนี้ เพราะทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย และตามมติของคณะกรรมการที่มีออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งอยู่ที่คณะกรรมการจะเดินหน้าไปแบบไหนมากกว่า และเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องหลายฝ่าย ก็ต้องให้หลายฝ่ายเป็นผู้ตัดสินดู ตอนนี้เรายื่นสุดมือแล้ว จากนี้ก็ขอให้เป็นเรื่องของทางคณะกรรมการที่จะตัดสินว่าจะออกมาเป็นแบบไหน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในเรื่องนี้บ้างหรือไม่ เพราะไม่เห็นด้วยกับการแบน 3 สารพิษนี้เหมือนกัน น.ส.มนัญญา กล่าวว่า วันนี้ก็เจอ แต่ไม่เห็นพูดอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวโน้วที่จะทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ต้องรอดูผลการประชุมในวันพรุ่งนี้ จึงจะตั้งประชุมกันอีกครั้งว่าจะมีแนวทางออกมาแบบไหน แต่ความจริงการลด ละ เลิก ก็เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วที่ต้องการจะลด ละ เลิก การใช้สารเคมีในประเทศไทยให้น้อยลง ซึ่งเราก็ทำตามนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ได้ทำอะไรแตกต่างเลย และเรื่องนี้ความจริงไม่ได้เกิดในสมัยนี้ แต่เกิดมานานแล้ว และเราก็มาสานต่อให้เป็นรูปธรรม
“หากจะมีการเปลี่ยนแปลงมติครั้งแรก ในครั้งที่สองมันก็ต้องมีความหนักแน่นว่ามีเหตุผลอะไรที่จะไปลบล้างคำสั่งหรือมติครั้งแรกได้” น.ส.มนัญญา กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีสารอะไรที่จะมาทดแทน หลังจากมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้เลิกใช้สารเคมีหรือไม่ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า หากพูดถึงสารเคมีในประเทศไทยมีมาอยู่แล้ว แต่ที่จะนำเข้ามาเพื่อมาทดแทน 3 สารเคมีเหล่านี้ไม่มีแน่นอน ซึ่งในส่วนของสหกรณ์อาจจะมีการปรับเปลี่ยนมาเป็นเครื่องจักรแทน
น.ส.มนัญญา ตอบถึงประเด็นที่ การทำประชาพิจารณ์คนส่วนใหญ่กว่า 70% ที่ไม่อยากให้มีการแบน 3 สารพิษ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ประชาพิจารณ์นี้ตนไม่ทราบว่าไปเอามาจากไหน มีคำสั่งมาหรือเปล่า ทุกอย่างก็ต้องมีลายลักษณ์อักษร
“เราไม่เห็นว่าที่ให้มาทำนั้นกลับมาทำอะไร ไม่ได้บอกว่าให้มาทำประชาพิจารณ์หรือให้กลับมาทำอะไร ตรงนี้เราไม่เห็นจึงไม่สามารถตอบได้ คำว่าประชาพิจารณ์มันต้องดูว่าจริงๆ แล้วช่องทางที่เกษตรกรจะเข้าถึงจริงๆ อยู่ตรงไหน เพราะทุกคนจะต้องเข้าถึงได้ในทุกช่องทาง ไม่ใช่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด และต้องประชาพิจารณ์ไปทุกจังหวัด เพราะเกษตรกรอยู่ทั่วประเทศไทย ต้องดูจากเปอร์เซ็นต์ด้วยว่าได้หรือไม่” น.ส.มนัญญา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยอมรับกับมติของคณะกรรมการที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้หรือไม่ น.ส.มนัญญา กล่าวว่า ขอเก็บเป็นความลับไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน แต่มีอยู่ในใจแล้วทุกอย่าง