พรรคก้าวไกล ยื่นญัตติด่วนตั้ง กมธ. ตรวจสอบใช้งบประมาณแก้ปัญหาโควิด-19 ด้าน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ชี้เพื่อถ่วงดุลฝ่ายบริหาร
6 พ.ค. 63 เพจเฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ได้โพสต์ข้อความว่า นายกมีอำนาจเต็มไม่ได้หมายความว่าปราศจากการตรวจสอบ! “ก้าวไกล” ยื่นญัตติด่วนตั้ง กมธ. ตรวจสอบใช้งบประมาณแก้ปัญหาโควิด-19 “พิธา” ชี้เพื่อถ่วงดุลฝ่ายบริหาร – รักษาผลประโยชน์ประชาชน
พรรคก้าวไกลแถลงข่าวการยื่นญัตติด่วนขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญติดตามการตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค กล่าวว่าจุดประสงค์ในการขอตั้ง กมธ. ชุดนี้ เพื่อเป็นกลไก ติดตามเรื่องสถานการณ์ความทุขก์ร้อนของประชาชน เรื่องมาตรการเยียวยาประชาชน และเรื่องการใช้งบประมาณของรัฐบาล ทั้งนี้ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างที่ทุกคนทราบคือ ได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพประชาชน และแม้จะมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทำให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็ม โดยบรรดาอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ถูกโอนมาเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีชั่วคราว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายกรัฐมนตรีจะกระทำการใดๆ โดยปราศจากการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติ
“ที่สำคัญ อีก 2 สัปดาห์ การประชุมสภาสมัยสามัญจะมีขึ้น ในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 นอกจาก พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับที่ต้องพิจารณาแล้วยังมี ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 รวมถึง ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 พรรคก้าวไกลจะยื่นญัตติเพื่อตั้ง กมธ. ชุดนี้ด้วย เพื่อทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และให้ข้อเสนอแนะแก่รัฐบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และกลไกตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหาร และรักษาผลประโยชน์ประชาชนที่ควรได้รับ อันเป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเราจะมั่นใจอย่างไรว่าผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลจะสนับสนุน พิธากล่าวว่าถ้าหากช่วงนี้ผู้แทนราษฎรได้ทำงานในพื้นที่ก็จะได้ยินเสียงร่ำไห้ของประชาชนที่ไม่มีเงิน ไม่มีงาน ไม่มีข้าว ผมคิดว่าก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ ยากที่ผู้แทนราษฎรจะปฏิเสธความยากลำบากของพี่น้องประชาชนหรือเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน