พรรค ก้าวไกล เรียกร้อง!รัฐบาล กรณีมาตรการเงินเยียวยาประชาชน 5 พัน

เพจพรรค ก้าวไกล รายงานว่า (15 เม.ย. 2563) โฆษกพรรคก้าวไกลทั้ง 4 ได้แก่ Wiroj Lakkhanaadisorn – วิโรจน์ ลักขณาอดิศร, สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา – Suttawan Suban Na Ayuthaya, Tanwarin Sukkhapisit ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ และ Nattacha Boonchaiinsawat – ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นจดหมาย “ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล กรณีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน 5,000 บาท” สะท้อนกระแสเสียงของประชาชนต่อมาตรการภาครัฐดังกล่าวที่เพิ่งจะประกาศใช้ไปไม่กี่วันก่อนหน้า

เนื้อหาของข้อเรียกร้องมีดังนี้:

“ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2563 ให้มีมาตรการชดเชยรายได้แก่ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) รายละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน จำนวน 8 ล้านคน เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จากการหยุดประกอบกิจการของสถานประกอบการหลายแห่ง ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการประกาศมาตรการต่างๆ ของรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม เป็นต้นมา โดยเปิดให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www. เราไม่ทิ้งกัน .com โดยรัฐบาลจะใช้ระบบ AI ตรวจสอบคัดกรองพิสูจน์ความทุกข์ยากของประชาชน

พรรคก้าวไกล ได้มีข้อท้วงติงเชิงเสนอแนะต่อรัฐบาลมาโดยตลอด ว่าแรงงานนอกระบบในภาคบริการ และภาคการผลิต ตลอดจนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมในมาตรา 39 และมาตรา 40 และมาตรา 33 ที่ยังไม่เกิดสิทธิประกันการว่างงานนั้น มีอยู่จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 14.5 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลควรจะช่วยเหลือเยียวยาแรงงานนอกระบบทั้งหมดแบบถ้วนหน้าทุกคน และไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะใช้กระบวนการตรวจพิสูจน์ความทุกข์ยากของประชาชน เพราะจะกินระยะเวลายาวนาน ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตของประชาชนเกิดขึ้นทุกวันและไม่อาจที่จะรอได้ นอกจากนี้ระบบที่ต้องให้ประชาชนกรอกข้อมูลที่มีความซับซ้อนมาก จะเป็นการกันประชาชนที่ไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยีที่มีอยู่จำนวนไม่น้อย ให้เข้าไม่ถึงระบบการลงทะเบียนของรัฐ ที่สำคัญหลักเกณฑ์การคัดกรองผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด 19 ได้ตัดบางอาชีพออก เช่น คนงานก่อสร้าง โปรแกรมเมอร์ นักศึกษา โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้รับผลกระทบทางตรง เพราะไม่ว่าอาชีพใดในขณะนี้ ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนทั้งสิ้น ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม นอกจากนี้ การกำหนดวงเงินช่วยเหลือไว้ให้ประชาชนเพียง 8 ล้านคน ย่อมทำให้มีแรงงานนอกระบบมากถึง 6.5 ล้านคนถูกทอดทิ้ง

และเมื่อเทียบเคียงกับกรณีที่ ทอท. มีมติเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการในท่าอากาศยานเป็นระยะเวลายาวนานถึง ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งยังผลให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้ผลประโยชน์สูงสุด ท่ามกลางการประมาณการว่า ในระยะเวลา 3 ปี การท่าอากาศยานจะสูญเสียกำไรสุทธิไปรวมกันถึง 22,536 ล้านบาท ซึ่ง ณ ขณะนั้น สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ยังไม่ได้รุนแรงเมื่อเทียบกับปัจจุบัน แต่กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ไม่ได้กำหนดให้มีกระบวนการพิเศษ ในการประเมินความทุกข์ยากของผู้ประกอบการ และกลุ่มทุนแต่ละราย แต่อย่างใด แล้วเหตุใดในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มีกระบวนการในการพิสูจน์ความทุกข์ยาก ที่วุ่นวาย ซับซ้อน แก่ประชาชนด้วย
ในที่สุดเมื่อวันที่ 12 เมษายน ผลการคัดกรองรอบแรกปรากฏจำนวนประชาชนผู้ลงทะเบียนที่มีมากถึง 27 ล้านคน โดยมีการตรวจคัดกรองไปได้เพียง 7.99 ล้านราย โดยมีประชาชนที่ผ่านเกณฑ์ 1.68 ล้านราย

ในจำนวนนี้ ยังมีประชาชนอีกจำนวน 1.53 ล้านราย ที่ต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลเพื่อดำเนินกระบวนการพิสูจน์ความทุกข์ยากต่อไป ซึ่งก็ยังไม่ได้มีคำตอบจากรัฐบาลว่า หลังจากที่กรอกข้อมูลเพิ่มเติมไปแล้ว รัฐบาลจะพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ถูกปฏิเสธการช่วยเหลือเยียวยาที่มีมากถึง 4.78 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นความผิดพลาดของระบบที่ระบุอาชีพที่ไม่เป็นจริง เช่น เป็นเกษตรกร ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็น บางกรณีถูกระบุว่าเป็นนักเรียน/นักศึกษาเพราะเรียน กศน. ระบุว่าเป็นผู้ประกอบการทั้งๆ ที่เป็นพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย แม้จะเปิดให้ประชาชนอุทธรณ์ได้ในวันที่ 20 เมษายนนี้ แต่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า จะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการพิจารณาอุทธรณ์จากประชาชน

ด้วยเหตุผลทั้งหมดข้างต้น ยืนยันได้ว่ากระบวนการในการพิสูจน์ความทุกข์ยากของประชาชนนั้นประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของความครอบคลุมประชาชนที่เดือดร้อนจริง และในแง่ความเร่งด่วนในการช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ซึ่งหากรัฐบาลยังคงยืนกรานที่จะดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาในลักษณะนี้ต่อไป ยิ่งจะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่กำลังประสบความทุกข์ยากให้เกิดความสิ้นหวัง โดยไม่อาจสร้างความเชื่อมั่น และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ของประชาชนคนไทย ให้มีกำลังใจที่จะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ไปร่วมกันเลย

พรรคก้าวไกล จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินมาตรการการเยียวยาประชาชน และเร่งรัดการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มอื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด ทั้งสิ้น 4 ข้อ ดังต่อไปนี้

  1. ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนกรอบความคิด จากเดิม ที่รัฐบาลมีฐานคิดที่ว่าตนเป็นเจ้าของงบประมาณ ที่กำลังเจียดเงิน เพื่อบริจาคสงเคราะห์ให้กับประชาชน ให้เปลี่ยนมาเป็น รัฐบาลเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน ให้มาทำหน้าที่ในการจัดสรรงบประมาณที่เป็นของประชาชน ในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
  2. ขอให้รัฐบาลยกเลิกกระบวนการพิสูจน์ความทุกข์ยากของประชาชน ยกเลิกเกณฑ์อาชีพที่เดิมรัฐบาลปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้แรงงานนอกระบบได้รับเงินโดยถ้วนหน้า และรวดเร็ว ซึ่งรวมถึงนักเรียน นักศึกษาที่หาเลี้ยงตนเอง และจุนเจือครอบครัว หากช่วยเหลือเยียวยารายละ 5,000 บาท จำนวน 14.5 ล้านคน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ก็จะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 217,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณที่อยู่ในวิสัยที่รัฐบาลสามารถจัดสรรได้
  3. ขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือเยียวยาแรงงานในระบบประกันสังคมที่มีอยู่ประมาณ 12 ล้านคน ที่ ณ ปัจจุบัน กำลังประสบปัญหารายได้ลดลง อันเนื่องมาจากถูกลดเงินเดือน ถูกสั่งให้หยุดงานบางวัน และจ่ายค่าแรงเพียงบางส่วน หรือถูกลดชั่วโมงทำงานล่วงเวลา และเร่งช่วยเหลือเยียวยาแรงงงานนอกระบบในภาคเกษตร ที่มีอยู่ราวๆ 11.5 ล้านคน
  4. รัฐบาลควรเตรียมมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาเก็บตก กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ที่เข้าไม่ถึงระบบการลงทะเบียนแบบออนไลน์ ให้สามารถลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ได้ และจัดหาสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆ เช่น ศูนย์พักพิง ศูนย์กักกันโรค อาหาร น้ำดื่ม และของใช้จำเป็น เพื่อให้มั่นใจได้ว่า รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัญญาเอาไว้

พรรคก้าวไกลขอยืนยันว่า จะใช้อำนาจนิติบัญญัติที่ประชาชนได้มอบความไว้วางใจให้จากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ยืนเคียงข้างกับประชาชนในยามที่ประชาชนได้รับความทุกข์ยาก โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกลทุกคน จะลงพื้นที่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลความเดือดร้อน และการไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาล รวมทั้งพรรคก้าวไกล ได้เปิดเว็บไซต์ www. ทำไมไม่ได้5พัน .com เพื่อรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากมาตรการของรัฐบาลทั่วประเทศ และจะใช้กลไกของสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดผ่านกลไกของคณะกรรมาธิการสามัญ ตลอดจนการเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนเพื่อเรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมของพวกเขา ผ่านการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พระราชกำหนดกู้เงินเพื่อการเยียวยาและดูแลเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญในมาตรา 172 วรรคสาม รวมทั้งให้การช่วยเหลือแก่ประชาชน ในการเรียกร้องความเป็นธรรมของตนตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป”

#ก้าวไกล #ทำไมไม่ได้5พัน #เราไม่ใช่เกษตรกร

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

ผิดแค่ไหน! พ่อค้าร้านขาหมูประกาศหยุดขาย หลังถูกร้องเรียนเสียงดัง

พ่อค้าร้านข้าวประกาศ หยุดขายขาหมู หลังเพื่อนบ้านร้องเรียน สับหมูรบกวนเสียงดัง ล่าสุดเทศบาลนัด 2 ฝ่ายไกล่เกลี่ยพรุ่งนี้

สพฐ. แจงปม ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ ที่ร้อยเอ็ด ชี้! ผิดวินัยไม่ร้ายแรง

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผยผลสรุป ผอ.โรงเรียนหวงเก้าอี้ พบผิดวินัยไม่ร้ายแรง เตรียมลงดาบทางวินัย แต่ให้โอกาสปรับปรุงตัว

ณเดชน์ ใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง พร้อมขอโทษ ญาญ่า

ณเดชน์ คูกิมิยะ ถึงกับใจวูบ! หลังเห็นกระแสข่าว เลื่อนงานแต่ง บานปลายสร้างความเข้าใจผิด พร้อมขอโทษ ญาญ่า อุรัสยา

แชร์สนั่น! “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่เด็กสมบูรณ์ พกง่าย ละลายเร็ว

ชาวเน็ตอึ้ง! เด็กสมบูรณ์เปิดตัว “ซีอิ๊วขาวแบบเม็ด” นวัฒกรรมใหม่ ของซีอิ๊วขาว มาพร้อมกับสโลแกน พกสะดวก ละลายไวใน 5 วินาที

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ยินดี สมรสเท่าเทียมผ่าน เผยเป็นวันที่รอคอยมานาน

ป๊ายปาย โอริโอ้ โพสต์ข้อความร่วมยินดี เมื่อสมรสเท่าเทียมผ่านครม. พร้อมเผยเป็นวันที่รอคอยมานานมาก โลกเปิดกว้าง ไม่จำกัดเพศ
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า