วันรัฐธรรมนูญ นายนคร มาฉิม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับวัน รัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ แต่มันคือกฎโจรกบฏ ที่เป็นมะเร็งร้ายสร้างความขัดแย้ง แตกแยกและก่อสงครามกลางเมือง
10 ธันวาคม ของทุกปีล่วงมา 87 ปี คือวันรัฐธรรมนูญ ควรจะเป็นวันที่สำคัญ ยิ่งใหญ่ที่สุดของปวงชนชาวไทย ที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าและส่วนราชการทั้งหมดต้องให้ความสำคัญ เพราะนับแต่มีการอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน 2475 โดยคณะราษฏร ร่วมกันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ จากเดิมที่อำนาจทั้งหมดเป็นของพระมหากษัตริย์เพียงผู้เดียว มาเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะยาก ดี มี จน ให้พระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้กฎหมาย รัฐธรรมนูญ
ได้มีการรับรองสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ความเท่าเทียมให้ประชาชน ได้วางโครงสร้างอำนาจในการบริหารรัฐ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าตามแบบอย่างของโลกที่เจริญแล้ว
หากแต่ชนชั้นสูง ชนชั้นปกครอง นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ และเครือข่ายองคาพยพของฝ่ายเผด็จการเดิม ซึ่งเป็นพวกอนุรักษ์นิยมที่เคยมีสิทธิพิเศษเหนือกว่าประชาชนทั่วไป รู้สึกว่าพวกเขาเสียประโยชน์ที่เคยมี เคยได้ สูญเสียสถานะการเป็นชนชั้นปกครอง พวกเขารับไม่ได้ที่จะยอมให้ลูกตาสี ตาสา ยายมี นางมา มาเป็นผู้แทนราษฎร มาจัดตั้งรัฐบาล มาปกครองพวกเขา
สงคราม 2 ระบอบ ระหว่าง ประชาธิปไตย กับ เผด็จการ จึงเริ่มขึ้นตั้งแต่นั้น พวกเขาฝ่ายเผด็จการได้สร้างพรรคการเมืองอนุรักษ์นิยมขึ้นมา และหากฝ่ายเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งก็จะใช้ให้ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการ องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม ข้าราชการระดับสูงเป็นเครื่องมือ ร่วมกันเป็นทีมเวิร์คยึดอำนาจไปจากประชาชน ทั้งด้วยปืน และด้วยกฎหมายในนามกระบวนการยุติธรรม เพื่อคงสถานะของพวกเขาให้ดำรงอยู่ต่อไป
การต่อสู้สงครามชนชั้น สงครามประชาธิปไตยกับเผด็จการต่อเนื่องมายาวนาน ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ ผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516. 6 ตุลาคม 2519. เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เหตุการณ์ เมษา -พฤษภา 2553 ฝ่ายประชาธิปไตยที่มาเพื่อเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค และความเป็นธรรม ถูกฝ่ายเผด็จการใช้อำนาจรัฐ อำนาจปืน และกระบวนการยุติธรรมเข่นฆ่า ประหัตประหารบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย ติดคุก หลายร้อย หลายพันชีวิต ในขณะที่ฝ่ายเผด็จการและลิ่วล้อบริวารของเผด็จการที่เป็นฝ่ายกระทำกลับไม่ผิด ไม่ได้แม้กระทั่งจะนำตัวขึ้นศาล เช่นการฆ่าคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์แต่ก็มีนักสู้เพื่อประชาชนและประชาธิปไตยก็เกิดขึ้นมารุ่นแล้วรุ่นเล่า และขยายมากขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความจริง ด้วยเหตุผล ด้วย หลักการ เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการ สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและภราดรภาพ
ฝ่ายเผด็จการแม้จะชนะ และได้อำนาจปกครอง บนซากศพของวีรชนฝ่ายประชาธิปไตย ก็หมดความชอบธรรมลงเรื่อยๆ ถูกประณามว่า เป็นเผด็จการทรราช เมื่อความจริงปรากฏ เพราะโลกยุคใหม่ ไม่มีใครโกหก หลอกลวง ความจริง ที่ถูกปิดบัง ซ่อนไว้อีกต่อไป
ยูทิวบ์ เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ไลน์ ในยุคดิจิตอล ได้เปิดเผยความจริงทุกอย่าง ทุกแง่ทุกมุม จึงทำให้คนดีที่ถูกสร้างขึ้นมาในระบอบเผด็จการด้วยสงครามจิตวิทยา ล้างสมอง โฆษณาชวนเชื่ออย่างหนัก เปิดเผยตัวตนว่า แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นปีศาจในคราบเทวดา ที่กดขี่ ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบประชาชนคนในชาติมาตลอดมา ทำให้คนไทยยากจน ค้นแค้น ไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาเม่าที่ควร เพื่อให้คนไทยโง่ จน เจ็บ ตลอดไปจะได้ง่ายต่อการปกครอง
กาลเวลาได้คร่าชีวิตเหล่าทรราช สมุน บริวารของเผด็จการไปหลายคนแล้วเช่นกัน แต่ระบอบเผด็จการก็ได้สร้างเผด็จการรุ่นใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องดังเช่นที่เป็นรัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปในปัจจุบันนี้ พวกเขามีมวลชนจำนวนหนึ่งที่อ้างว่ารักชาติมากกว่าใคร คลั่งชาติ ไม่ยอมรับความจริงการเปลี่ยนแปลงของโลก สนับสนุน สยบยอมก้มหน้ารับใช้เผด็จการ กล่าวหาฝ่ายประชาธิปไตยว่า เป็นพวกชังชาติ แต่พวกเขามีจำนวนลดลง เพราะคนส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังต้องการเป็นทาส ไพร่ รับใช้เผด็จการ อยู่ไปวันๆไม่เรียนรู้การเมืองการปกครองสมัยใหม่ ไม่ต้องการสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ มวลชนเหล่านี้เป็นมวลชนฝ่ายเผด็จการ
การต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตย กับ ฝ่ายเผด็จการต่อเนื่องมายาวนานเกือบร้อยปี หลังสุด ฝ่ายเผด็จการระดมสรรพกำลัง สมคบคิดกันทั้ง นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ ข้าราชการระดับสูงองค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ ร่วมกันยึดอำนาจประชาชน ไปเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่ยังไม่สามารถเอาชนะฝ่ายประชาธิปไตยได้เผด็จการและเครือข่าย ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดิม กลุ่มเดียวกันจึงได้ร่วมมือกันวางแผนกัน สมคบคิดกันยึดอำนาจประชาชนซ้ำอีกในปี 2557
เพื่อไม่ให้เสียของ พวกเขาทั้งระบอบจึงเปิดหน้า เปิดเผยตัวตนทั้งหมดอย่างชัดเจนว่า มีใครบ้าง มีองค์กรใดบ้าง มีพรรคการเมืองใดบ้าง หรือมีสถาบันใดบ้างเป็นฝ่ายเผด็จการ พวกเขาให้พลเอกประยุทธ์และ คณะ คสช. ออกหน้ายึดอำนาจประชาชนด้วยปืน แล้วใช้เล่ห์เพทุบายยื้อเวลาในการปกครองมา 3 ปี ค่อยผ่าน รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60
หากพิจารณาตามทฤษฎีการตรากฎหมาย ความชอบธรรมในการตรากฎหมาย และการบังคับใช้กฏหมาย รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ไม่ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญได้เลยเพราะ การที่คณะรัฐประหารใช้อาวุธยึดอำนาจประชาชนไป ถือว่าเป็นโจรกบฏ ไม่ได้มาจากอำนาจของปวงชนชาวไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจมอบให้ จึงไม่มีความชอบธรรมที่จะออกกฎหมายรัฐธรรมนูญมาปกครองประเทศและประชาชนอันเป็นประเด็นหลัก ที่ทั่วโลกไม่ยอมรับ โลกจึงไม่เรียกว่ารัฐบาล แต่เรียกว่า คณะผู้ยึดอำนาจการปกครองหรือ Junta
คณะ คสช. หรือ Junta ได้ปกครองประเทศไทยภายใต้กฎเผด็จการ เป็นลักษณะเผด็จการฟาสซิสต์ กดขี่ ข่มเหง เอารัดเอาเปรียบ ได้ให้บรรดา ลิ่วล้อบริวาร ของเผด็จการ ที่เป็นเนติบริกร นักกฎหมายของพวกเผด็จการ สร้างร่างรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60
ขึ้น อ้างว่าผ่านประชามติแล้ว ทั้งที่ในขณะทำประชามติ เผด็จการ คสช. ได้ใช้
- คำสั่ง คสช.หลายฉบับ
- พรบ. ประชามติ
- พรบ. คอมพิวเตอร์
และกฎหมายสารพัด
เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยที่เห็นต่างโต้แย้ง คัดค้าน อธิบายถึงความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย ชี้แจงได้เลย
แม้จะมีองค์กรนักวิชาการ องค์กรนักศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ทักท้วง ก็ไม่รับฟัง พร้อมทั้งทำการจับกุม คุมขัง ดำเนินคดีเรียกไปปรับทัศนคติกับหลายคนที่เห็นต่าง ประชามติครั้งนี้จึงไม่ใช่ประชามติที่แท้จริง แต่เป็นเพียงพิธีกรรมการทำประชามติหลอกชาวไทย หลอกลวงชาวโลกเพื่อสร้างความชอบธรรมให้เผด็จการสืบทอดอำนาจ อ้างความชอบธรรมในการปกครองเท่านั้น
ฝ่ายเผด็จการอ้างว่าเป็น รัฐธรรมนูญฉบับ ปราบโกง เพิ่มอำนาจให้ศาลและกระบวนการยุติธรรม เพิ่มอำนาจให้องค์กรอิสระ มากขึ้นจนมีอำนาจเหนือกว่าอำนาจของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจที่แท้จริง และด้วยอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด ประกอบกับ พลเอกประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นผู้แต่งตั้ง ทั้งองค์กรอิสระแม้แต่ศาลรัฐธรรมนูญเอง การปราบโกง จึงเป็นแค่เพียงวาทะกรรมที่ทำให้คนหลงเชื่อ ให้ดูดี แต่เป้าหมายหลักคือฝ่ายเผด็จการจะใช้ศาล องค์กรอิสระและ กระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทำลายล้าง ประหัตประหารฝ่ายประชาธิปไตยไม่ให้เข้มแข็งมาสู้กับเผด็จการอีกต่อไปเท่านั้น
หากพินิจในรายละเอียดยิ่งมองเห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ เป็นรัฐธรรมนูญของเผด็จการ โดยเผด็จการ และเพื่อเผด็จการอย่างแท้จริง กล่าวคือ
- ทำให้ได้รัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพ เช่นที่เป็นอยู่ พรรคการเมืองขนาดเล็กมีอำนาจต่อรองสูง จนต้องใช้เงิน ผลประโยชน์ ต่างตอบแทน บนความหายนะของประเทศชาติและประชาชน ที่เรียกว่า แจกกล้วย ตลอดอย่างน่าอัปยศ
- ละทิ้งหลักการสำคัญ ให้คนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้โดยไม่ต้องเป็น สส. ทั้งที่ในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 ต้องแลกมาด้วยชีวิตเลือดเนื้อของประชาชน
- การเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน เป็นการออกแบบมาเพื่อทำลายพรรคการเมือง ทำลายประชาธิปไตย ทำลายอำนาจของประชาชน พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้งที่ 1 ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล บิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน
- คสช. มีอำนาจแต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภา 250 คนเพื่อมาโหวต คสช. เป็นรัฐบาลต่อ ถือว่าเป็นทายาทอสูรที่ช่วยให้เผด็จการสืบทอดอำนาจสำเร็จ
- คณะ คสช. ซึ่งเป็นแกนระบอบเผด็จการ แต่งตั้ง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีแต่ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ
นายทุน ขุนศึก ศักดินา อำมาตย์ เพื่อครอบงำชาติตลอดไป - การแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ยากที่สุด จนไม่อาจแก้ไขอะไรได้เลยในทางปฏิบัติเพราะพวกเขาต้องการปกครองกดขี่ ข่มเหง คนไทยส่วนใหญ่ตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน
- การรณรงค์เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ 7 พรรคฝ่ายค้านก็ถูกขัดขวางจากคนในรัฐบาลเอง และถูกแจ้งความดำเนินคดีกับผู้นำ 7 พรรคฝ่ายค้าน
- กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐสภาก็ถูกตั้งท่าขัดขวางจากรัฐบาล จนสุดท้ายก็ไม่อาจแก้ไขรัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช นี้ได้
สรุปได้ว่า วันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่บ้านเมืองของเราไม่ได้มีรัฐธรรมนูญของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง บ้านเมืองของเราปัจจุบัน ถูกปกครองด้วยกฎของโจรกบฏที่ปล้นอำนาจของประชาชนไป แล้วสร้างกฎโจรกบฏขึ้นมาเรียกว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 ชาติบ้านเมืองของเรา จึงขัดแย้ง แตกแยก แบ่งฝักฝ่าย จึงเสื่อมทรุดลงในทุกๆด้าน และรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช.ปี 60 นี้ จะเป็นฉนวนเหตุสำคัญหนึ่งที่จะก่อให้เกิดกลียุค มิคสัญญี หรือสงครามกลางเมืองได้ทุกขณะ
คำตอบจึงอยู่ที่คนไทยทุกคนว่าพวกเราจะสยบยอม ก้มหน้า หมอบคลานใต้กฎเผด็จการโจรกบฏต่อไปหรือจะลุกขึ้นสู้อย่างพร้อมเพียง ปฏิเสธกฎของโจรกบฏ เรียกร้อง ต่อสู้บนหลักกฎหมาย อันเป็นหลักการสากล หลักนิติรัฐ นิติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญของประชาชนโดยประชาชนและเพื่อประชาชน ตามหลักการประชาธิปไตยสากล แล้วปลดแอกตัวเองจากการเป็นทาสเผด็จการที่ผูกล่าม พวกเราไว้ ในนามของ รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้
รัฐธรรมนูญเผด็จการ คสช. ปี 60 คือมรดกบาปของเผด็จการ ที่จะต้องถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ไทยจะเกิดกลียุค ก่อนที่จะเกิดสงครามกลางเมือง
นคร มาฉิม
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
10 ธันวาคม 2562
วันรัฐธรรมนูญ
