ส.ส.สอบตก ลั่น! อดีตผู้สมัคร พรรคอนาคตใหม่ เมื่อไม่พอใจเรื่องต่าง ๆ ในพรรค ก็ออกมาโจมตีพรรคทันที
วันที่ 28 ต.ค. จากกระแสข่าวว่าจะมีอดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่จำนวนหนึ่ง เดินทางไปยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่กับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ทั้งนี้ ยังมีข่าวลือว่าได้มีตัวแทนของพรรคติดต่อกับอดีตผู้สมัคร โดยได้มีการเสนอตำแหน่งอนุกรรมาธิการบางชุด , ตำแหน่งผู้ช่วย ส.ส.บางราย เพื่อแลกกับการให้หยุดเคลื่อนไหว โดยมีอดีตผู้สมัครยอมรับในส่วนนี้ประมาณ 10-15 รายนั้น
ล่าสุด ทางด้าน นายทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล หรือ เบสท์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า
“ผมเป็นหนึ่งใน #อดีตผู้สมัคร ส.ส. #อนาคตใหม่ หรือหลายคนเรียกว่า ส.ส.สอบตก ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นสมาชิกสิ่งที่ผมคิดเสมอคือให้ทำอะไรก็ได้ที่จะช่วยพรรค พรรคไม่เคยเสนอสิ่งตอบแทนใด ๆ ให้ตั้งแต่วันที่สมัครจนถึงวันนี้ ยอมรับว่าการทำงานบางครั้งก็มีสิ่งไม่ถูกใจอยู่บ้างแต่นั้นคือเรื่องงาน
หลังเลือกตั้งจบก็ไม่มีใครมาชวนผมไปทำงานกับพรรค แต่ผมยังจำสิ่งที่ตัวเองตั้งใจได้เสมอทำอะไรก็ได้ที่ช่วยพรรค ผมก็ยังคงพยายามช่วยพรรคเท่าที่ตัวเองจะมีความสามารถและกำลังจะทำไหว เพื่อให้ #อนาคตใหม่ เติบโตไปข้างหน้า
ตั้งแต่ที่ผมร่วมงานกับ #อนาคตใหม่ มายังไม่มีส่วนไหนที่รู้สึกแบบ อดีตผู้สมัครบางคนจะลาออกเพราะไม่พอใจเรื่องต่าง ๆ ในพรรค แล้วออกมาโจมตีทั้งผู้บริหาร #ส.ส.อนาคตใหม่ ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะวันแรกที่สมัครสมาชิกพรรคไม่เคยเสนออะไรให้ แล้วในนี้พวกคุณกลับมาเรียกร้อง พอไม่ได้อย่างที่หวังก็ไม่พอใจ หาเรื่องต่าง ๆ มาสนับสนุนให้ตนเป็นฝ่ายถูก พวกท่านจะลาออก ผมคงไม่สามารถไปคัดค้านอะไรได้
แต่อยากจะบอกว่าให้นึกถึงวันคัดเลือกและคณะกรรมการถามท่านว่าถ้าไม่ได้รับเลือกเป็น ส.ส. ท่านจะทำอย่างไร เป็นคำถามที่น่าจะถามผู้สมัครที่จะลงสมัครในนาม #อนาคตใหม่ ทุกคน แล้ววันนี้ท่านยังเป็นสมาชิกพรรค #อนาคตใหม่ ท่านได้ทำตามที่ตอบคำถามนั้นหรือไม่ ซึ่งถ้าท่านจำไม่ได้หรือไม่ทำตามในสิ่งที่พูดไว้ การลาออกของพวกท่านไม่ใช่ความผิดของพรรคเลย แต่คือการรับผิดชอบต่อคำพูดของพวกท่านเอง คงต้องบอกว่า #เชิญเลย ครับ
อนาคตใหม่ จะได้มีพื้นที่ให้คนที่ยังมีอุดมการณ์ และแนวคิดที่จะทำงานเพื่อส่วนรวมเข้ามารวมกันมากขึ้น กาลเวลาจะคัดเลือกคนที่เหมาะสมให้เหลืออยู่ ซึ่งแม้แต่ผมถ้าวันใดที่ไม่สามารถคงอุดมการณ์นี้ได้ผมเองก็ต้องไปแต่ไม่ใช่เพราะความผิดพรรคแน่นอน”