นิด้าโพล เผยผลสำรวจประชาชนเห็นด้วย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จัดกิจกรรมการชุมนุมแฟลชม็อบ ชี้เป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธและความรุนแรง
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ธนาธร ปลุกม็อบ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 16-17 ธ.ค. 2562 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,277 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จัดกิจกรรมการชุมนุม (แฟลชม็อบ) บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562
จากการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการที่นายธนาธร จัดกิจกรรมการชุมนุม (แฟลชม็อบ) บริเวณสกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 30.62 ระบุว่า เป็นสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมที่ปราศจากอาวุธและความรุนแรง รองลงมา ร้อยละ 16.76 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่ออนาคตของประเทศ
ร้อยละ 16.60 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ , ร้อยละ 15.74 ระบุว่า เบื่อการชุมนุมบนท้องถนน , ร้อยละ 14.57 ระบุว่า เป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยกและสถานการณ์ความวุ่นวายในอนาคต , ร้อยละ 10.88 ระบุว่า เป็นการจัดการชุมนุมเพื่อต่อต้านความไม่ยุติธรรมในสังคม , ร้อยละ 10.34 ระบุว่า เป็นการจัดชุมนุมเพื่อปกป้องนายธนาธร และพรรคอนาคตใหม่ที่กำลังโดนคดีความต่างๆ , ร้อยละ 4.31 ระบุว่า เป็นเรื่องของการไม่ยอมรับในกฎหมาย กติกาในสังคม , ร้อยละ 2.82 ระบุว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายการชุมนุม และร้อยละ 5.25 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการจัดกิจกรรมการชุมนุม (แฟลชม็อบ) เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 พบว่า ร้อยละ 27.80 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เสรีภาพ ให้กับประชาชน โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง ขณะที่บางส่วนระบุว่า อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโดยการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนคนเก่าที่เป็นอยู่
ร้อยละ 20.75 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ เป็นสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน ถ้าไม่ทำให้การชุมนุมบานปลายสร้างความวุ่นวาย ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเห็นประเทศไทยมีการพัฒนาขึ้นในทุกๆด้าน , ร้อยละ 15.35 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเบื่อการชุมนุมน่าจะต่อสู้ ตามกระบวนการกฎหมายมากกว่าออกมาสู้แบบการชุมนุม เนื่องจากจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ความแตกแยกในสังคม และจะส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน
ร้อยละ 28.35 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะการจัดชุมนุมไม่สามารถทำให้ประเทศพัฒนาไปข้างหน้าได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวมากกว่า และกลัวบ้านเมืองจะเกิดความแตกแยก วุ่นวาย เหมือนในอดีตที่ผ่านมา และร้อยละ 7.75 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ