กลุ่ม FTA Watchg นัดชุมนุมคัดค้าน CPTPP ต้านครม.พิจารณา โดยถ่ายภาพพร้อมถือป้าย #NoCPTPP ชี้ กระทบความมั่นคงอาหาร ยา และสังคม
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 จากกรณี รัฐบาลเตรียมนำเรื่องการเข้าร่วมภาคี ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค หรือ CPTPP เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น
ล่าสุด กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ FTA Watchg เชิญประชมชน “ร่วมชุมนุมออนไลน์” โดยการถ่ายภาพตนเองพร้อมข้อความขึ้นหน้า wall ใส่แฮชแท็กข้อความต่อไปนี้
NoCPTPP #อย่าฉวยโอกาสวิกฤติโควิดต้องคิดใหม่ ไม่เอาCPTPPการค้าล้าหลัง เก็บพันธุ์พืชไปปลูกต่อไม่ใช่อาชญากรรม ความมั่นคงทางอาหาร #ความมั่นคงทางยา คือความมั่นคงของสังคม #CPTPP MobFromHome
นัดประชาชนทุกคนให้ร่วมแชร์ ส่งไปยังทุกช่องทางสื่อสาร ตั้งแต่ 6 โมงเช้า วันจันทร์ที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อต่อต้านการกระทำของคณะรัฐมนตรี เตรียมลงมติเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิคCPTPP ตามข้อเสนอของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่เสนอเรื่อง หนังสือแสดงเจตจำนงเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (CPTPP) ในวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563 นี้
การเข้าร่วม CPTPP จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงแก่ประเทศไทย ได้แก่ การผูกขาดเมล็ดพันธุ์ ทำลายความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางยา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลาง/ขนาดเล็กของไทย รวมทั้ง การจำกัดพื้นที่สาธารณะของรัฐในการคุ้มครองประชาชน อีกทั้งไม่มีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมหลังวิกฤติโควิด-19
นอกจากนี้ ในเรื่องของ CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership ) เป็นข้อตกลงด้านการค้าเสรีที่ครอบคลุมเรื่องต่างๆ หลายด้าน เดิมใช้ชื่อว่า TPP (Trans-Pacific Partnership) มีสมาชิกทั้งหมด 12 ประเทศ แต่ต่อมาสหรัฐอเมริกาถอนตัวไป ทำให้เหลือ 11 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม โดยฝ่ายที่สนับสนุนการเข้าร่วมระบุว่า ถ้าไทยเข้าร่วมจะทำให้เศรษฐกิจ การลงทุน การส่งออกเติบโตมากขึ้น แต่ถ้าไม่เข้าร่วมจะเสียโอกาสขยายการค้าและการลงทุนเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอาเซียนอย่าง เวียดนามและสิงคโปร์