ประชุมสภา น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายทั่วไปตามมาตรา 165ว่า จากข้อเสนอ 3 ข้อของม็อบเยาวชนเป็นเพียงความต้องการของคนส่วนน้อย ทางออกเป็นไปไม่ได้ จะไม่เกิดขึ้นทั้ง 3 ข้อ จุดเริ่มต้นของความแตกแยกไม่ได้เกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เยาวชน หรือสถาบันใด ๆ แต่เกิดจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งตนใช้โซเชียลมีเดียเยอะมาก และผู้อยู่เบื้องหลังความแตกแยกก็ใช้โซเชียลมีเดีย
เช่น การสร้างข่าวปลอมว่าจะมีรัฐบาลแห่งชาติ และมีการข่าวใส่ร้ายสถาบัน ประชาชนควรติดตามข่าวสารที่แท้จริง และการจัดการโซเชียลทำได้ยากมาก เพราะเป็นบริษัทต่างชาติ อนาคตของประเทศไทยต้องไม่เป็นฐานทัพของประเทศใดไปสู้กับจีน เพราะประเทศเรามีทรัพยากรมาก หากผู้ใดให้ความร่วมมือถือว่าขายชาติ
นอกจากนี้การชุมนุมยังมีความก้าวร้าว และจาบจ้วงอย่างชัดเจน แม้จะมีการเรียกร้องว่าหยุดใช้กฎหมายควบคุมผู้ที่เห็นต่าง แต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. จะเป็นว่าขบวนเสด็จถูกคุกคามเสรีภาพ ไม่ใช่เข้าไปหาม็อบ และยังถูกการพูดจาก้าวร้าวหยาบคายใส่ ต่อให้ไม่ใช่ขบวนเสด็จก็ไม่มีสิทธิ์ปิดถนนหรือตะโกนด่าใคร ๆ และไม่มีสิทธิ์เอาคีมเหล็กไปตีตำรวจ เป็นเหตุให้ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้มีการชุมนุมที่มากเกินไป รัฐบาลควรจัดสถานที่ชุมนุมให้เยาวชนชุมนุมอย่างสงบและพูดคุยกับรัฐบาล
ขณะที่มีการบอกว่าปฏิรูปไม่ได้แปลว่าล้มล้าง เป็นความเข้าใจของคนส่วนน้อย ในข้อเท็จจริง เราไม่จำเป็นต้องปฏิรูปสถาบัน ประเทศไทยปกครองโดยระบบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข เรื่องนี้คือเป็นเพียงพฤติกรรมของเยาชนส่วนน้อยเท่านั้น เป็นข้อเสนอที่บังอาจไปแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หยุดใช้เยาวชนที่เป็นผ้าขาวมาเป็นเครื่องมือ เพราะเวลาใกล้จะหมดแล้ว และอาจจะจบด้วยไม่มีแผ่นดินอยู่