วีระ สมความคิด เลขาต้านคอร์รัปชั่น ไลฟ์สด ขึ้นโรงพักพร้อมหลักฐาน เอาผิด “เอ๋- ปารีณา และผู้เกี่ยวข้อง” ฐานบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวน เชื่อเจ้าหน้าที่รัฐหนุนหลัง วีระ สมความคิด วีระ สมความคิด เลขาต้านคอร์รัปชั่น ไลฟ์สด ขึ้นโรงพักพร้อมหลักฐาน เอาผิด “เอ๋- ปารีณา และผู้เกี่ยวข้อง” ฐานบุกรุกครอบครองที่ป่าสงวน เชื่อเจ้าหน้าที่รัฐหนุนหลัง
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2562 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ดินทางไปยัง สำนักงานทรัพยากรป่าไม้จังหวัดราชบุรี เพื่อขอพบผู้อำนวยการสำนักงาน เพื่อหารือเกี่ยวกับขอข้อมูลที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กว่า 1,706 ไร่ ในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง แต่เมื่อไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ระดับชั้นผู้ใหญ่และป่าไม้จังหวัดไม่อยู่ เดินทางไปที่กรมป่าไม้ นายวีระ จึงเดินทางต่อไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอจอมบึง เพื่อแจ้งความกับ ร.ต.อ. กัมปนาท เจริญศรี รอง สว. (สอบสวน) สภ.จอมบึง ให้ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ และ ที่ดิน ส.ป.ก.ในพื้นที่ดังกล่าวทันที โดยในขณะเดียวกันได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวไปด้วย
โดยเอกสารหลักฐานสำคัญ ประกอบไปด้วย ภาพถ่ายที่ดินทางอากาศ เอกสารข้อมูลของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้กล่าวถึงคดีที่ดิน รวมถึงข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พูดถึงที่ดิน มาแสดงเป็นหลักฐาน เพื่อยื่นให้กับพนักงานสอบสวน พร้อมกับลงชื่อกำกับไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยมี พ.ต.ท.แมนสรวง กาญจนสะอาด รองผู้กำกับ สภ.จอมบึง ร่วมตรวจสอบเอกสารที่มีการนำมายื่นในวันนี้
หลังจากนั้น นายวีระ ได้กล่าวว่า เพื่อจะมาสอบถามเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ในอำนาจหน้าที่ของป่าไม้และจะถามว่าอยากจะไปแจ้งความกับเราด้วยหรือไม่ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลกฎหมาย แต่หากไม่ไปกับเรา ผมก็จะต้องแจ้งความหมดว่าที่ผ่านมามีการปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมายป่าสงวน ซึ่งทางป่าไม้ได้ดูแลอยู่ ในเมื่อไม่พบเพราะทราบจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในระดับเล็กๆ ส่วนระดับที่สามารถประสานคุยกันได้นั้น ไม่มีใครอยู่เลย จึงได้มายังสถานีตำรวจภูธรจอมบึงเพื่อทำการแจ้งความกล่าวโทษกับผู้กระทำความผิดทุกคน
ซึ่งหลังจากนี้จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ มีหลักฐานพยานอะไรก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เชื่อว่าคนไทยคงได้เห็นแล้วว่า แม้แต่ รมช.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังพูดเองว่า มีการบุกรุกก่อนที่จะเป็น ส.ป.ก. ซึ่งเป็นคำพูดชัดเจน ป่าไม้คิดว่าละเว้นมานานแล้วตั้งแต่มีการเข้าไปบุกรุก และคงจะต้องไปดูในข้อเท็จจริงโดยเอาข้อกฎหมายเป็นตัวตั้ง
นอกจากนั้น นายวีระ ยังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวคงไม่ได้มีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียวนอกจาก น.ส.ปารีณา แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปช่วยเหลือด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป
