วันที่ 23 ต.ค. 63 ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sustarum Thammaboosadee เปิดเผยจดหมายจาก เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ ขณะอยู่ที่เรือนจำธัญบุรี พร้อมระบุว่า จดหมายจากคุก เรือนจำธัญบุรี พริษฐ์ ชิวารักษ์ (เพนกวิน) ผมรู้จักเพนกวินตั้งแต่เขาอยู่ประมาณ ม.6 ตอนนี้เขาอยู่มหาวิทยาลัย ปี 4 แล้ว เขาเป็นนักสู้อย่างไม่ต้องสงสัย
ภาพแรก ไผ่ ดาวดิน หลังออกจากเรือนจำ พร้อมชู 3 นิ้ว เดินหน้าไล่ประยุทธ์ต่อ
ทนายอานนท์ ตัดสินใจไม่ประกันตัว เกรงถูกอายัดตัว เสนอนำเงินไปช่วยประกันคนอื่นดีกว่า
ถ้าคุณมองเขาเป็นเด็ก ‘ผู้ใหญ่’ ฝ่ายประชาธิปไตย ฝ่ายอนุรัษ์นิยมมักไม่ชอบเขา เพราะเขามักก้าวหน้าเกินไปเสมอสำหรับผู้ใหญ่ไม่ว่าฝ่ายไหน แต่ถ้ามองว่าเขาเป็นสหาย เขาคือนักปฏิวัติที่มีครบ เขามีความรัก ความฝัน และความหวัง
ด้านล่างคือจดหมายที่เขาฝาก สหาย บอล Ball Chanin Wongsri มิตรสหายที่ติดต่อเขานำออกมา แม้ยามถูกพรากเสรีภาพ เขายังปรารถนารัฐสวัสดิการสำหรับผู้ถูกต้องขัง
รุ้ง ปนัสยา ถูกตัดผมสั้น-ย้อมผมดำหลังเข้าเรือนจำ ย้ำยังอยู่ดี และขอให้ทุกคนสู้ต่อไป
จดหมายจากเพนกวินถึงผม ตอนแรกก็คิดอยู่นานว่า จะเปิดเผยหรือไม่ แต่คิดว่าเป็นประโยชน์ถ้าหากเปิดเผย
ถึงสหายบอลและชาวบ้านโดมทุกท่าน
วันนี้เป็นวันที่2 ที่ได้รับการประดับยศเป็นนักโทษการเมือง ตอนนี้เราทั้งหมดขังไว้ในแดนกักโรค ซึ่งน่าจะมีคุณภาพชีวิตดีกว่าส่วนอื่นของคุก แม้จะไม่มีคำว่าเป็นส่วนตัว เพราะแม้แต่อาบน้ำก็ยังต้องอาบต่อหน้าเพื่อนร่วมห้องและกล้องวงจรปิดแต่อย่างน้อยก็ยังได้รับการต้อนรับและการดูแลอย่างอบอุ่นจากพี่น้องผู้คุม และผู้ต้องขัง ดูราวว่าคุกที่นี่จะเป็นแนวร่วมกับเราเสียมาก เพราะเดินไปทางใดก็มักจะได้รับการทักทายด้วยการชู 3 นิ้ว อยู่ทุกแห่งหน และน่าสนใจว่านักโทษที่นี่ก็ไม่ได้ศรัทธาในสิ่งที่เค้าบังคับให้ศรัทธามากนัก
เมื่อครั้งใดที่อธิบายว่าเรากำลังต่อสู้กับอะไร ทุกคนก็จะล้อมวงฟังอย่างตั้งใจ สำนักทางการเมืองของพี่น้องในนี้ไปไกลมาก เพราะพวกเขารวมถึงเราด้วยนั่นต่างเป็นผู้ถูกกดขี่ หลายคนเข้ามาที่นี่เพราะสภาวะทางเศรษฐกิจและสังคมบังคับ และหลายคนที่ถูกศาลตัดสินให้เข้าคุกด้วยคดีเล็กน้อย จนต้องเสียอนาคตก็ถูกดูดเข้าสู่วังวนอาชญกรรม เพราะไม่มีหนทางไป
และที่สำคัญพวกเราพี่น้องล้วนแต่เป็นฐานล่างของสังคมคุก ซึ่งมีความเป็นกึ่งศักดินา และกึ่งทาสอย่างถึงที่สุด นักโทษและผู้ต้องขังที่นี่หลายคน ถูกปิดบังหรือปฏิเสธสิทธิและเสรีภาพอันพึงมี แม้แต่การเจอทนาย หลายคนก็ไม่มีทนายให้เจอ หลายคนไม่รู้ว่ามีสิทธินี้
ดังที่มีคำคมคลาสสิคบอกไว้ว่า ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นมีการต่อสู้ และที่สำคัญ ประเด็นหนึ่งที่เมื่อพูดไปแล้วทุกคนที่นี่ไม่ว่าจะนักโทษหรือผู้คุมล้วนเห็นด้วย คือการเพิ่มงบประมาณให้กรมราชทัณฑ์ ได้ปฏิรูปเรือนจำให้ผู้คุมและนักโทษมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยใช้แนวคิดรัฐสวัสดิการ และมนุษยธรรมแบบสแกนดิเนเวีย ดังนั้นเชื่อได้ว่าคงจะมีแนวร่วมเรือนจำธัญบุรีฯ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน