แก้ไขรัฐธรรมนูญ — คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาพรรค นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรค และนายวัฒนา เมืองสุข กรรมการยุทธศาสตร์พรรค ร่วมกันแถลงถึงเส้นทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การยื่นแก้มาตรา 256 คือการไขกุญแจไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ถูกออกแบบมาให้แก้ไขได้ยากมาก แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เห็นพ้องกันที่จะแก้มาตรา 256 รวมทั้งการให้มี ส.ส.ร. คือการให้อำนาจการเขียนรัฐธรรมนูญจากผู้มีอำนาจมาสู่มือประชาชน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่เขียนเพื่อสืบทอดอำนาจ ซึ่งในขั้นตอนนี้เราก็ผลักดันจนได้รับการบรรจุและจะพิจารณาในวาระแรกวันที่ 23-24 กันยายนนี้ และมีการเสนอเพิ่มอีก 4 ญัตติ เพื่อหาวิธีการอย่างสันติวิธีในการแก้ไขวิกฤติทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาล และ ส.ว. มีความจริงใจ สนับสนุนให้มีการเปิดการประชุมรัฐสภาในสมัยวิสามัญในเดือนกันยายน เพื่อให้พิจารณาญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกญัตติให้เสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม เพราะหากเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม อย่างน้อย 5 ญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะเพิ่มโอกาสในการแก้วิกฤติครั้งนี้ได้ โดยเป็นหลักการที่เป็นสากลและเป็นไปด้วยความสันติ
นายพงศ์เทพ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาและประเด็นที่จะต้องแก้ไขมากมาย เพราะจากการผูกโยงมาตราต่างๆ เป็นโครงข่ายไว้ด้วยกัน ทำให้จะแก้ไขเฉพาะมาตราใดมาตราหนึ่ง โดยไม่แก้ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องได้พร้อมกันไม่ได้ พร้อมกับเสนอ 4 ญัตติ ดังนี้ คือ
1. รัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีการให้อำนาจ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้ง สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งได้ เราขอเสนอให้ตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ต่อไปถ้ามีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ส.ส. เท่านั้น ที่จะเป็นผู้ลงมติเลือกว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี
2. ที่มาของนายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเปิดโอกาสให้คนนอกสามารถเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เราจึงเสนอตัดทิ้งออกไป และเปิดโอกาสให้กับคนในที่เป็น ส.ส. สามารถมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญฉบับก่อนๆ
3. มาตรา 279 เป็นบทบัญญัติที่นักกฎหมายต่างลงความเห็นว่าเป็นบทบัญญัติที่แย่ที่สุดในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และแย่ที่สุดกว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยมีมา เพราะว่าเป็นการทำให้ประกาศ คำสั่ง คสช. และการกระทำต่างๆ ของ คสช. ถูกต้องชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆ
4. การตัดอำนาจ ส.ว. ในการที่จะมาติดตามเรื่องการปฏิรูป และเรื่องที่มามีส่วนร่วมกับ ส.ส. ในการพิจารณายับยั้งกฎหมาย ซึ่งแต่เดิม ส.ส. กับ ส.ว. พิจารณาแยกกัน แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้เรื่องบางเรื่อง กฎหมายบางประเภทต้องมาพิจารณาร่วมกัน ซึ่งต่างจากหลักการพิจารณากฎหมายทั่วไป ตรงนี้เราจึงตัดให้เป็นการพิจารณาตามปกติของแต่ละสภา