พิธา อนาคตใหม่ ชี้ ถ้าเอาใจเขามาใส่ใจเรา เราจะแก้ปัญหา ฝุ่น PM2.5 ได้ดีกว่านี้ ให้สมกับที่ประชาชนเลือกเรามา บอกหากตนเป็นนายกรัฐมนตรี จะเรียกเข้าวอร์รูมทันที
วานนี้ 22 มค. ในที่ประชุมสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคอนาคตใหม่ ชี้ PM2.5 ยังแก้ไม่ได้ซักทีเพราะไทยมีปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจ รัฐบาลมี master plan แต่ไม่มีอำนาจใดที่ใหม่กว่า พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมปี 2535 ที่จะให้อำนาจในการแก้ปัญหาได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่มี action plan สถานการณ์นี้เปรียบเสมือนแฮมในแซนวิชที่ยังขาดขนมปัง ดังนั้นต้องมี พ.ร.บ.อากาศสะอาด (Clean Air Act) ที่อนาคตใหม่กำลังผลักดัน ต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมที่มีอำนาจสั่งการ action plan ต้องเร็ว จริงจังและจับต้องได้
กรมควบคุมมลพิษตอนนี้แทบไม่มีอำนาจในการสั่งการใดๆ ในระดับภูมิภาค ทำได้เพียงขอความร่วมมือจากทางกระทรวงการต่างประเทศ ข้าวโพดที่เผาที่พม่า อ้อยที่เผาที่กัมพูชา ปาล์มที่เผาที่อินโดนีเซียนั้น มาถึงประเทศไทยทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงใช้คำว่า ONE ASEAN, one breath อาเซียน มีลมหายใจเดียวกัน
ในระดับประเทศ การเผาในเกษตรต้องขอความร่วมมือไปยังกระทรวงเกษตรฯ ด้านอุตสาหกรรม ก็ต้องขอความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรม ถ้าพูดเรื่องคมนาคมก็ต้องไปขอความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคม โรงงานไฟฟ้า ถ่านหิน กรมควบคุมมลพิษก็ต้องไปขอความร่วมมือจากกระทรวงพลังงาน เพราะฉะนั้นหากเปลี่ยนอธิบดีอีก 10 คน แต่ไม่มีพ.ร.บ.อากาศสะอาด (Clean Air Act) ก็แก้ไม่ได้อยู่ดีเพราะโครงสร้างไม่ให้อำนาจผู้เกี่ยวข้องในการตัดสินใจและดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พิธาชี้ว่า จะแก้ต้องบูรณาการ เช่น ที่สิงคโปร์ ก็มี Environmental Protection Agency ที่สวีเดนก็มี Swedish Environment Protection อเมริกามี US Environmental Agency หรือสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติของแต่ละประเทศ ที่เอา 5 – 6 กระทรวงมาบูรณาการ และคนที่คุมสามารถมีอำนาจสั่งการ เมื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เมื่อวิกฤตหน่วยงานนี้มีอำนาจสั่ง สั่งโรงงานให้ปิดหรือชะลอการผลิต หยุดการผลิตที่ไม่จำเป็น ห้ามเผากลางแจ้ง สั่งหยุดโรงเรียน เป็นการแทรกแซงมลภาวะในช่วงสั้นและเร่งด่วน และสามารถออกนโยบาย ภาษี สนับสนุน สร้างอุตสาหกรรมใหม่ๆ เครื่องกรองอากาศราคาไม่แพงเพื่อคนไทยทุกคน
“รัฐบาลมี master plan แต่ไม่มี action plan ถ้าผมเป็นนายกรัฐมนตรี พรุ่งนี้ผมจะเรียกเข้าวอร์รูมทันที นัดคุยเพื่อแก้ไขปัญหาในภาวะไม่ปกติ กระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงมหาดไทย ฯลฯ นำผู้เกี่ยวข้องทุกคนมานั่งอยู่ด้วยกัน ภายในกี่ปีการเผาในการเกษตรจะต้องหมดไป ภายในปี 2580 ต้องไม่มีโรงงานไฟฟ้าที่มาจากถ่านหินอีกต่อไป รถขสมก.เป็นรถเก่า 2000 กว่าคัน แน่นอนว่าที่ผ่านมามันมีการคอรัปชั่นที่ทำให้ล่าช้า เป็นมหากาพย์กันมา อันนี้ผมเข้าใจครับ
สุดท้าย ต่อให้มีพ.ร.บ.อากาศสะอาด และ action plan ปัญหานี้ต้องใช้ใจแก้ด้วย ปัญหา PM2.5 เป็นเรื่องของความเหลื่อมล้ำด้วย มันเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวที่อาจจะยังมองไม่ชัดในตอนนี้ พวกเราโดยเฉพาะในสภาต้องใส่ใจปัญหานี้มากกว่านี้ ให้สมกับที่ประชาชนเลือกเรามา ถ้าเราเอาตัวเราเองไปอยู่ในปัญหา เอาใจเขามาใส่ใจเรา ผมเชื่อว่าเราจะสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ครับ” พิธา กล่าวสรุป