พิธา โพสต์เฟซบุ๊กแนะรัฐบาล ใช้หลัก 5 ข้อ C-O-V-I-D แก้ปัญหา โควิด-19 ชี้ผลพวงเศรษฐกิจอยู่กับไทยอีก 1 ปี

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 63 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ระบุว่า พิธา เสนอ ใช้ C-O-V-I-D แก้วิกฤติ COVID-19

เราคงต้องยอมรับความจริงว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็เสียก็ต้องเข้าสู่การระบาดระดับที่ 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผมเชื่อว่าประชาชนตื่นตัว เตรียมพร้อมรับมือและดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน แต่อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญคือรัฐบาลที่จะต้องพาคนไทยออกจากวิกฤตินี้ มีความพร้อมแค่ไหน

การบริหารจัดการวิกฤติเป็นเรื่องของการรู้อดีต ทำปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ผมคิดว่าการบริหารจัดการวิกฤติ COVID-19 เราต้องใช้หลักการ 5 ข้อที่ผมย่อออกมาเรียกว่า C-O-V-I-D มาแก้ไขปัญหา

C heckpoint จุดตรวจคัดกรองทั่วประเทศ
O ne voice สื่อสารเสียงเดียว
V accine พัฒนาวัคซีน
I solation การแยกตัว
D ata การบูรณาการข้อมูล

“Check point – จุดตรวจคัดกรองโรค”

โรคระบาดเป็นเรื่องภัยมั่นคงทั้งของประเทศชาติและมนุษยชาติ ซึ่งถือว่าเป็นภัยคุกคามไม่ต่างจากภัยอื่นๆ ตัวอย่างการระบาดของโรค Ebola ที่ประเทศคองโก มีการตั้งจุดตรวจตามหัวเมืองสำคัญๆ ทำให้สามารถคัดแยกผู้ป่วยได้ ในขณะที่ปัจจุบันประเทศไทย ตามข่าวมีผู้ป่วย COVID-19 สามารถไปมาจากพัทยาถึงเพชรบูรณ์ จากเชียงใหม่ถึงหาดใหญ่ โดยไม่มีคนหรือเทคโนโลยีสุ่มตรวจ

หนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลควรทำตอนนี้คือการตั้งจุดตรวจคัดกรองเชิงรุกอย่างกว้างขวาง โดยทำให้ผู้คนเข้าถึงการตรวจได้ง่ายที่สุด ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ตามแนวทาง WHO ต้องเน้นการ drive through หรือการกระจายจุดตรวจย่อยทั้งในและนอกกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องมารวมตัวและรอกันที่โรงพยาบาลหลายชั่วโมงอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะการรอคิวในโรงพยาบาลถือเป็นจุดเสี่ยงอีกจุดหนึ่งที่จะแพร่กระจายเชื้อกันได้ การมีจุดตรวจย่อยมากเพียงพอก็จะช่วยลดความเสี่ยงตรงนี้ลงไปได้

“One Voice – สื่อสารเสียงเดียว”

การสื่อสารในช่วงการบริหารจัดการวิกฤติ (crisis management) เป็นสิ่งสำคัญเพราะในช่วงวิกฤติจะเต็มไปด้วยคำถาม ข้อสงสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวลือที่จะสร้างความสับสัน และตื่นตระหนก จนอาจนำไปสู่ความวุ่ยวาย และความโกรธแค้นได้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องรวมศูนย์การสื่อสารอย่างเป็นทางการไว้ที่แหล่งเดียวหรือคนเดียว เพื่อป้องกันการให้ข้อมูลที่สับสนและคลาดเคลื่อนไม่ตรงกันของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะช่วยลดความตื่นตระหนกในสังคมได้ เช่น ในปี 2014 การระบาดของโรค Ebola ที่มี Barack Obama ประธานาธิบดีเป็นผู้แถลง หรือเหตุการณ์ช่วยชีวิต 13 หมูป่าออกจากถ้ำที่จังหวัดเชียงรายที่ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เป็นผู้สื่อสารหลักเพียงท่านเดียว

“Vaccine – พัฒนาวัคซีน”

ในขณะที่ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และอิสราเอล กำลังทุ่มทุนค้นคว้าและผลิตวัคซีนต้านไวรัส ประเทศไทยกำลังทำอะไรอยู่? ประเทศเรามีบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มีศักยภาพสูง แต่ปีหนึ่งๆ เราลงทุนกับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์เพียงแค่ 8,000 ล้านบาท คิดเป็น 0.06% ของ GDP มากกว่าเกณฑ์ของ WHO เพียงเล็กน้อย ถ้าเราเพิ่มงบอีกเท่าหนึ่ง 8,000 ล้านบาท เราก็สามารถสร้างอุตสาหกรรมสุขภาพ มีงานเพิ่มขึ้น มีงบวิจัยเพิ่มขึ้น มีห้องทดลองและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ซึ่งผลที่ประเทศไทยจะได้รับไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจที่เราจะมีลูกค้าหลายล้านคนจากทั่วโลก แต่เรายังเป็นความหวังของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่พวกเขาต่างรอคอยให้คนที่เขารักหายจากการเจ็บไข้ได้ป่วย

“Isolation – การแยกตัว”

หรือการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นมาตรการหลักที่รัฐบาลทั่วโลกใช้เพื่อชะลออัตราการแพร่ระบาดไม่ให้รวดเร็วจนเกินศักยภาพของระบบสาธารณสุขหรือเรียกว่า “การทำให้กราฟชันน้อยลง” (Flatten the curve) ในประเทศไทยยังมีปัญหาว่าการกักตัวยังสะท้อนความไม่เท่าเทียมกันในสังคม เมื่อแรงงานไทยที่มาจากต่างประเทศถูกกักตัวใน ขณะที่ชาวต่างชาติที่มาในเครื่องบินเดียวกันไม่ถูกกักตัว หรือพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ที่หาเช้ากินค่ำ ค้าขาย หรือเป็นลูกจ้างรายวัน คงไม่มีโอกาสที่จะทำตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมได้ หากไม่มีความชัดเจนทางกฎหมาย เช่น หากต้องหยุดงานเพื่อดูอาการถึง 14 วัน แล้วจะยังได้รับค่าตอบแทนจากนายจ้างหรือไม่ อย่างไร

“Data – บูรณาการข้อมูล”

รัฐบาลไต้หวันเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการวิกฤติ ภายในวันเดียวรัฐบาลไต้หวันสามารถรวมข้อมูลจากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ (National Health Insurance Administration) และหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง (Immigration Agency) เพื่อค้นหาบุคคลและประวัติการเดินทาง 14 วันที่ผ่านมาของผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งให้รัฐสามารถระบุตัวตนของผู้ป่วยและสามารถให้คนที่มีความเสี่ยงสูงกักตัวเองอยู่ในบ้าน และติดตามความเคลื่อนไหวผ่านโทรศัพท์ นอกจากนี้ยังทำเว็บไซต์แผนที่แสดงจุดจำหน่วยหน้ากากอนามัยแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายนี้ ผลเสียของโรค COVID จะลามไปถึงเศรษฐกิจ มีหลายสำนักได้ออกมาฟันธงแล้วว่า GDP จะติดลบ -0.8 ถึง 1% สำหรับเศรษฐกิจในประเทศ สำหรับ เศรษฐกิจระหว่างประเทศ เมื่อศูนย์กลางของโรค COVID ได้ย้ายไปอยู่ที่ยุโรป ซึ่งเมื่อเริ่มดูสภาพเศรษฐกิจ ภาวะหนี้ของธนาคารขนาดใหญ่ นโยบายของ ECB แล้ว พวกเราคงต้องคิดแล้วว่า ถ้าผล “Aftermath” ของ COVID จะอยู่กับพวกเราไปอีก 1 ปี เราจะรับมือกันอย่างไร ใช้งบประมาณแค่ไหน วางทัพกันอย่างไร

ถ้าเราผ่านวิกฤตินี้กันไปได้ เราลงทุนในแผนสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้ จะไม่ใช่การตำน้ำพริกละลายแม่น้ำแน่นอน โลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว การวางแผนตั้งด่านบนท้องถนน การตั้งศูนย์ระบบ การสื่อสารกับประชาชน การลงทุนในวิทยาศาสตร์การแพทย์ การพัฒนาวัคซีน การซักซ้อมการแยกตัวของประชาชน การบูรณาการข้อมูลแบบรัฐบาลต่างชาติ จะเป็นการใช้งบประมาณ การลงทุนที่ทำให้ประเทศไทยผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และเราจะเข้มแข็งขึ้นครับ

โพสต์ต้นฉบับ

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

คนโสดอิจฉา! ไบร์ท วชิรวิชญ์ โพสต์สตอรี่ แฟนๆ แห่แซวถึง เนเน่

ทำคนโสดอิจฉาตาร้อนเมื่อเห็น ไบร์ท วชิรวิชญ์ โพสต์ภาพลงสตอรี่ แฟนคลับพร้อมใจแห่แซวถึง เนเน่ พรนับพัน หวานใจคนสวย

สรุปดราม่า นักศึกษาสาวปี 3 ม.ดัง ก่อเหตุ ปาดคอแฟนหนุ่มที่หอกอล์ฟวิว

สรุปให้! ปมดราม่าเหตุอุกอาจ นักศึกษาสาวปี 3 ก่อเหตุปาดคอแฟนหนุ่มจนเข้า ICU ที่หอกอล์ฟวิว ด้านมหาวิทยาลัยกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผัวช็อก! เมียฆ่าลูกชายวัย 2 ขวบ ก่อนผูกคอตายตาม หลังทะเลาะกันหนัก

สาวเมียนมาน้อยใจผัว พาลูกชายวัย 2 ขวบ หนีออกจากบ้านที่ภูเก็ต ก่อนพาไปสังหารในสวนปาล์ม แล้วผูกคอตัวเองตายตาม

กลับมาอีกครั้ง! “ซองแจ BTOB” ปล่อยซิงเกิลเดี่ยว หลังอยู่ต้นสังกัดใหม่

“ซองแจ BTOB” กลับมาอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยว และจะปล่อยซิงเกิลแรกของเขา “EXHIBITION : Look Closely” ให้ตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง!

ผญบ.ฟินแลนด์ ตอบปมดรามาสมบัติ 100 ล้าน แบ่งให้ แพรวพราว จริงไหม ?!

ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์ ตอบปมดรามาสมบัติ 100 ล้าน ในรายการ แฉ แบ่งให้อดีต แพรวพราว แสงทอง จริงไหม ?!

บิ๊ก ทองภูมิ วิ่งหนีซาแซง เจอตามถึงโรงแรม ลั่น ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว !

บิ๊ก ทองภูมิ โพสต์คลิปวิดีโอวิ่งหนีซาแซง เผยเจอตามติดมานาน บางทีตามถึงโรงแรม เจ้าตัวท้อไม่รู้จะแก้ปัญหานี้ยังไงแล้ว!
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า