บิ๊กตู่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา โยนสภาฯสอบ เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พกสารตั้งต้นระเบิด เตือนทำอะไรขอให้คิดก่อน แนะส่งข้อมูลให้ฝ่ายความมั่นคง
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำสารประกอบระเบิดทีเอ็นที (TNT) มาทดสอบประสิทธิภาพการตรวจเครื่องตรวจระเบิดในอาคารรัฐสภาโดยพล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ทราบว่านายชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฏร ได้สั่งตรวจสอบแล้ว ส่วนนี้ก็ต้องไปดูเจตนาว่าคืออะไร เพราะก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ส่วนจะถูกหรือผิดก็เป็นเรื่องทางกฎหมาย อีกทั้งกฎระเบียบของรัฐสภาก็มีอยู่ ส่วนกังวลหรือไม่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วจะส่งผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัยนั้น มองว่าอาจเป็นการมองคนละมุม ซึ่งนายมงคลกิตติ์ อาจจะมองในแง่ของตัวอื่น และอาจจะลืมดูข้อกฎหมาย และกฎระเบียบของสภาฯ หรือไม่ ตนก็ไม่รู้ เรื่องนี้ต้องไปตัดสินกันเอาเอง ตนคงไม่ไปเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย คงไม่ต้องมีการปรับอะไรกันใหม่ เพราะเชื่อว่าคงไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำสองอีก ขึ้นอยู่กับคนที่นำเข้าไป ดังนั้นจึงอยากฝากไปถึงทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือเป็นใครก็ตามจะอยู่ในฐานะอะไร ต้องคิดให้รอบคอบ เวลาที่จะทำอะไร อาจจะหวังดี หรือไม่หวังดี แต่ต้องมองด้วยว่า อาจกระทบกับอย่างอื่นด้วย แต่ก็ขอว่าอย่าให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไรเลย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงที่กรณีนายมงคลกิตติ์ ระบุว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุจากทางภาคใต้ขึ้นมาในพื้นที่กรุงเทพมหานครกว่า 100 คน ว่า ขอให้นายมงคลกิตติ์ แจ้งมาก็แล้วกัน ซึ่งวันนี้เรามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมายดูแลอยู่ แต่การที่ไปพูดเช่นนี้ หากไม่ใช่ข้อมูลที่แท้จริง มันก็จะมีปัญหา พูดแบบนี้จะได้ประโยชน์อะไร สิ่งต่างๆ และข้อมูลแบบนี้ ควรให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงดูแล ถ้ามีข้อมูลก็ขอให้มาแจ้งกับหน่วยงานความมั่นคง และพูดคุยกัน ทั้งในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) อย่างไรก็ตามการออกมาพูดผ่านสื่อแบบนี้จะได้เรื่องหรือไม่ สื่อเองก็ไม่ควรนำเรื่องเหล่านี้ไปขยายความต่อ เพราะบางครั้งเป็นการพูดเอามันส์หรือเปล่าก็ไม่รู้ จึงก็ขอให้เตือนๆ กันบ้าง
จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามต่อกรณีดังกล่าว นายกฯ กล่าวตัดบทว่า “พอแล้ว เหนื่อยแล้ว”