ม.112 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เผยถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำ 44 ส.ส.ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอแก้ไขกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก 5 ฉบับ ซึ่งรวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ห้ามหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่า ไม่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลแท้จริงแล้วที่ไปยื่นแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะทำเพื่อสถาบันอย่างแท้จริง แต่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองที่อยากจะกระทำการจาบจ้วงสถาบันโดยไม่อยากมีความผิดมากกว่า
ทั้งนี้ ตนเองยังยืนยันว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้ไปจำกัดสิทธิเสรีภาพของใคร ยกเว้นแต่ใครที่กระทำที่ส่อเจตนาดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์ ดังนั้น จะต้องแก้ตั้งแต่ต้นทางคือต้องไม่กระทำการจาบจ้วง ก้าวล่วงสถาบัน แต่ไม่ใช่มาขอแก้กฎหมายมาตรา 112
นายสุภรณ์ ยังขอสนับสนุน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี พร้อมกลุ่มประชาชน เข้ายื่นรายชื่อประชาชน จำนวน 101,568 ชื่อ เพื่อคัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมาย มาตรา 112 ต่อสภาฯ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 พร้อมกันนี้ยังขอชื่นชม ส.ส.พรรคก้าวไกล 9 คน ที่ไม่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ที่มีความคิดเป็นของตัวเอง รู้ว่าอะไรสมควรทำหรือไม่สมควรทำ นอกจากนี้ ตนเองยังได้ทราบมาว่ามีประชาชนในทุกจังหวัดที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล จะรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือที่ศาลากลางทุกจังหวัดไม่ให้มีการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112
อยากขอเตือนพรรคก้าวไกล ว่าการยื่นแก้ไขมาตรา 112 ยังมีประชาชนอีกมากมายทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งหากยังดื้อด้านที่จะแก้กฎหมายมาตรา 112 อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ ส่วนนักการเมืองหรือพรรคการเมืองหน้าไหนที่กล้าลงชื่อหรือยกมือสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 เท่ากับคิดร้ายต่อสถาบัน ประชาชนจะลงโทษไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดทางการเมืองอย่างแน่นอน