ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ยื่นคำร้องต่อ ปปง. เพื่อขอให้ไต่สวน สอบสวนบุคคลที่เป็นท่อน้ำเลี้ยง หรือเป็นผู้สนับสนุนให้กับการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา และล่าสุดคือกลุ่มที่กำลังจะดำเนินการจัดการชุมนุมสาธารณะขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในวันที่ 19-20 ก.ย. เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่
เนื่องจากมีบุคคลต่าง ๆ ที่ประกาศตัวเป็นท่อน้ำเลี้ยง และกลุ่มผู้จัดงานชุมนุมทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด ได้เปิดบัญชีธนาคารขอรับเงินบริจาค โดยอ้างว่า เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดชุมนุมสาธารณะในที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีใครรับทราบว่า การเปิดบัญชีรับเงินบริจาคเพื่อนำไปเป็นท่อน้ำเลี้ยงการชุมนุมเหล่านั้น แต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละบัญชี ได้รับเงินบริจาคเข้าบัญชีเป็นจำนวนมากนับแสน นับล้านบาท ทำให้เกิดข่าวเล็ดลอดออกมาจากกลุ่มพวกเดียวกันว่า มีการนำเงินบริจาคไปใช้ส่วนตัว หรือมีการหักหัวคิว โดยไม่มีใครตรวจสอบได้ จนนำไปสู่ช่องทางทำมาหากินกับการจัดม็อบขึ้นมา โดยอ้างประชาธิปไตยบังหน้า โดยล่าสุดมีการเปิดแผลให้พวกเดียวกันทราบ กรณีเซเล็บหรือขอทาน เหตุเกิดที่ จ.เชียงราย เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ประกาศตัวหรือเจ้าของบัญชีที่เปิดรับเงินบริจาคมาเข้าบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้งนักธุรกิจ ดารานักแสดง ผู้กำกับภาพยนตร์ หรือบางคนแม้จะเป็นนิสิต นักศึกษา ก็ต้องถือว่าเป็นผู้ที่มีรายได้พึงประเมินตามที่กรมสรรพากรกำหนด ตาม ม.40 แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ได้รับการยกเว้นตาม ม.42 หรือการยกเว้นตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 หรือการยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาฉบับต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งจะต้องนำรายได้จากการรับบริจาคตามที่ปรากฏในบัญชีธนาคารดังกล่าวไปคำนวณเป็นฐานภาษีเพื่อชำระภาษีประจำปีของแต่ละคนที่เปิดบัญชีธนาคารดังกล่าวด้วย
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯ จึงจะนำรายชื่อผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารรับเงินบริจาคเพื่อเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับกลุ่มม็อบต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะม็อบที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เพื่อให้กรมสรรพากร ได้ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินภาษีของผู้ถือบัญชีต่าง ๆ เหล่านั้นต่อไป โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันศุกร์ที่ 18 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานใหญ่กรมสรรพากรต่อไป