จำนำข้าว-แก้รธน.50 | “ประยุทธ์” ยัน ขึ้นเป็นนายกฯ ไร้ส.ว. ร่วมโหวต ขุดเรื่องเก่าสวนฝ่ายค้าน แจง เหตุต้องเข้ามาเพราะความไม่สงบปี 53 ยกเคส “ผมอยู่ไม่ได้ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ ถุงขนมย้ำยีอำนาจตุลาการ ไม่ยอมติดคุก นิรโทษกรรม” สวน “เพื่อไทย” ถามกลับ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อประโยชน์ใครไม่ทราบ!?
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรายบุคคลจากฝ่ายค้าน โดยได้ชี้แจงภายหลังนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านแถลงข้อกล่าวหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ว่า ขอชี้แจงในขั้นต้นเรื่องที่ไม่วางใจตนมีหลายเรื่องตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต แต่ตนไม่โกรธเลย ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด ตนเข้ามาชี้แจงด้วยความยินดี แม้มีการปล่อยข่าวว่า มีการเผชิญทั้งศึกใน ศึกนอก อย่างไรก็ตามไทยเข้าสู่การเป็นประชาธิปไตย เป็นไปตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งเป็นฉบับที่มีคนว่าทั้งดีและไม่ดี อาจจะไม่ถูกใจใครบ้างก็ตาม ทั้งนี้ส.ส.ทั้งหลายรวมถึงตนก็ผ่านการเลือกของประชาชน จำกันได้หรือไม่ ว่าตนได้คะแนนเสียงโหวตเลือกนายกฯ เกิน 250 เสียง ซึ่งมากกว่าฝ่ายค้าน ไม่มีส.ว.มาร่วมโหวตด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อกล่าวหาว่าตนไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้น ตนไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลย แต่ต้องมองย้อนกลับไปก่อน 22 พ.ค. 57 ว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์ในปี 53 เกิดอะไร นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเข้ามาอยู่ตรงนี้ จำเป็นต้องแก้ปัญหาให้เกิดความเรียบร้อยก่อนนำสู่การเลือกตั้ง นอกจากนั้น สิ่งที่ตนกังวลในตอนนั้นคือการโกง ลองย้อนกลับไปดูว่ามีจำนวนเยอะหรือไม่ ลองตอบในใจดู ไม่ต้องตอบดังๆ และมีเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศหลายอย่าง การทำลายอำนาจตุลาการ ซึ่งชาวบ้านยอมรับ ยอมติดคุก แต่บางคนไม่ยอมติดคุก อย่างเรื่องถุงขนม ประชาชนก็ลองเปรียบเทียบดู ซึ่งกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 เพื่อประโยชน์ใครไม่ทราบ รวมถึงการนิรโทษกรรม โครงการรับจำนำข้าว ใครทำก็ไม่รู้
“ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าผมใช้อำนาจโดยไม่ชอบธรรม ผมไม่เคยไปก้าวล่วงใคร หรือจับติดคุกโดยปราศจากหลักฐานและข้อเท็จจริง ท่านไม่เป็นธรรมกับผม ผมไม่เคยว่า ผมก็อารมณ์เย็นตลอด ในอดีต จ.ภูเก็ตและนครสวรรค์ก็โดนมาแล้ว ถ้าไม่เลือกเราก็ไม่ได้โครงการ หรือที่มีบางคนพูดว่า ผมอยู่ไม่ได้ ประเทศก็อยู่ไม่ได้ ใครพูดก็ไม่รู้ ดังนั้น ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน ก็ลงโทษคนทำผิดไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องเศรษฐกิจที่มีปัญหานั้นต้องถามว่า วันนั้นเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลายคนที่นั่งอยู่ในสภาฯตอนนี้คงทราบดีเพราะนั่งอยู่กับตนด้วย แล้วใครถูกตี ถูกทุบรถในวันนั้น เรื่องเหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้นอีก หากอยากจะตอบโต้ให้นำหลักฐานมายืนยัน ส่วนเรื่องมาตรา 44 ที่กล่าวอ้างว่านำไปแกล้งข้าราชการนั้น จะเอาไปแกล้งข้าราชการทำไมในเมื่อวันนี้ไม่มีแล้ว โดยที่ผ่านมานั้นมาตรา 44 มีไว้แก้ปัญหา อาทิเช่น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ และการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ซึ่งก็ทำสำเร็จไม่ใช่ เอาไว้ทำนู้นทำนี้ แต่ใช้ในการบูรณาการหรือแก้ปัญหา แล้วที่บอกว่าตนสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าใครพูดก็แล้วแต่ มันเป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ตนไม่ได้ไปนั่งร่วมร่างด้วย เพียงแต่ส่งความเห็น กรธ.ได้ข้อสรุปอย่างไรก็ปฏิบัติตามนั้น และ 5 ปี 7 เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง ลองนึกดูว่า มีคดีทุจริตกี่คดี ที่ผ่านมาเคยมีการแก้ไขหรือไม่ในกระบวนการยุติธรรม การทำงานของตนทำตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ใช่ไปนั่งหัวโต๊ะแล้วสั่ง ไม่ก้าวล่วงอำนาจเขาเลย เพราะทุกกระทรวงมีกฎหมายอยู่
ส่วนกรณีที่บอกว่าตนเอื้อประโยชน์ให้ใครนั้น เป็นการวิเคราะห์ วิจารณ์ หรือคาดการณ์กันไป ส่วนที่บอกว่ารัฐบาลใช้โครงการประชานิยม แต่ตนเรียก Tailor Made หรือที่แปลว่าช่างตัดเสื้อ คือแก้ปัญหาให้กับประชาชนแต่ละกลุ่มที่มีรายได้น้อย ซึ่งเราต้องดูแลเรื่องนี้ โดยด้านกระทรวงการคลังสามารถชี้แจงได้ รวมถึงเรื่องการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน BEM เรื่องนี้เกิดมาตั้งแต่สมัยไหน มีการให้สัมปทานมา 30 ปีแล้ว ตนก็ต้องแก้ไข เพราะมีกรณีฟ้องร้องเกิดขึ้น ทั้งนี้ตนเป็นทหาร ต้องรักษาสัตย์ รักษาจิตใจของตนเอง และต้องการให้การอภิปรายเป็นประโยชน์ เมื่อชี้แจงอะไรก็ให้กรุณาฟัง
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นประท้วงนายกฯ โดยระบุว่า กล่าวคำเท็จในสภาฯ โดยคำเท็จดังกล่าวนั้นคือช่วงตอนที่นายกฯบอกว่า ไม่ได้ใช้เสียงวุฒิสภา เพราะความจริงแล้วในวันโหวตนายกฯเป็นการประชุมรัฐสภา ดังนั้น จึงถือเป็นการพูดเท็จ ซึ่งด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภา กล่าวชี้แจงว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ทำผิดข้อบังคับใดๆ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าชี้แจงง่ายๆยังไม่เข้าใจ ก็ยากที่ตนจะชี้แจงต่อไป ก็ขอยุติเท่านี้ แต่เพียงเท่านี้ โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพล.อ.ประยุทธ์ พูดจบได้ยิ้มและนั่งลง