เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ขู่สภาฯ หากอ้างแต่ข้อบังคับ อาจมียิงกันเหมือนในศาล เผยยังไม่ส่งเอกสารลาออกของ ดล เหตระกูล จากกมธ.ป.ป.ช. ให้ประธานสภาฯ ขอตรวจสอบก่อน
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระพิจารณาการเปลี่ยนตัวกรรมาธิการ (กมธ.) ในคณะกมธ.ที่ว่างลง โดยนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา ลุกอภิปรายในที่ประชุมว่า ตนได้ทำหนังสือเพื่อขอลาออกจากตำแหน่งกมธ. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เพื่อไปดำรงตำแหน่งกมธ. การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากนั้น ได้ดำเนินการขั้นตอนเสนอชื่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แทนในกมธ.ป.ป.ช.ที่ว่างลง
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานที่ประชุม กล่าวกับที่ประชุมว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือลาออกของนายดล จากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกมธ. ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ แต่ตนได้เรียกพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มาทำความเข้าใจว่า การยื่นหนังสือลาออกเป็นสิทธิของส.ส. และมีผลในทางปฏิบัติแล้ว ส่วนเรื่องการแจ้งการลาออกจากประธานกมธ.เป็นไปตามขั้นตอนที่ขัอบังคับกำหนด
ด้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า ตนยังไม่แจ้งและส่งหนังสือลาออกของนายดล ไปยังประธานสภาฯ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯว่า การลาออกถูกต้องชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง หรือไม่ เพราะต้องตรวจสอบกลั่นกรองเรื่องให้ถูกต้องก่อน ซึ่งการเปลี่ยนตัวกมธ.ได้ข่าวว่านายดล ถูกบีบบังคับให้ลาออก และให้คนอื่นมาแทนมีความไม่ชอบธรรม ยืนยันว่าตนไม่มีปัญหากับคนที่เข้ามาใหม่ เพราะ 2 คนที่มาใหม่จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ามาดำรงตำแหน่งกมธ. ซึ่ง 2 คนนั้นเป็นเพียงลูกแมวสงสัยไม่รู้จักพ่อเสือ
“เรื่องที่กมธ.ของผมมีแต่ความไม่สงบ มีปัญหา ไม่เหมือนคณะอื่น เพราะมีคนพยายามทำตัวเหนือรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมมาชี้แจงกับกมธ. ทั้งที่กมธ.มีอำนาจ ทั้งนี้เรื่องการลาออก ผมต้องกลั่นกรอง เพราะหากไม่กลั่นกรองให้ดี ผมคือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เลว ทั้งนี้ในการประชุมสภาเมื่อวาน ที่จะลงมติตั้งกมธ. แก้ไขมาตรา 44 ท่านประธานอ้างข้อบังคับ ทำให้เกิดปัญหา วันนี้ผมขออ้างข้อบังคับเช่นเดียวกัน และขอให้ประธานสภาฯ วินิจฉัยความถูกต้องชอบธรรม ไม่เช่นนั้นกรณีที่ยิงกันในศาลเกิดขึ้น อย่าให้มียิงกันในสภาฯ อีกเลยนะครับ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
จากนั้น นายชวน ชี้แจงว่า สิทธิของสมาชิกเหนือกว่ากระบวนการ หากไม่เสนอคนเข้าไปดำรงตำแหน่งแทน อาจทำงานไม่ได้ ในตำแหน่งที่เปลี่ยนแปลงสามารถทำได้
ทั้งนี้ ได้มีผู้ประท้วงคำพูดของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต่อกรณียิงกันในสภาฯ ทำให้นายชวน กล่าวขึ้นว่า จะยิงหนังสติ๊ก หรือ ยิงปืน ผมขออย่าให้มือปืนทั้งหลายมาที่นี่
หลังจากนั้น มีการตั้งประเด็นหารือของพรรคฝ่ายค้าน โดยตั้งข้อสังเกตที่ยกโควต้าในกมธ.ของบางพรรคให้กับพรรคการเมืองอื่น อาจไม่ยึดถือสัดส่วนของกมธ. ตามจำนวน ส.ส.ที่พึงมี ทำให้นายชวน วินิจฉัยชี้ขาดว่า หากพรรคการเมืองใดไม่เอาตำแหน่ง และให้พรรคการเมืองอื่นเป็นแทน ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ ก่อนจะตัดบทและให้เข้าสู่วาระพิจารณาต่อไป