“เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ลั่นไม่รับงบประมาณฯ ชี้มาจากรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจ แฉยับ”ศุภชัย โพธิ์สุ”รองประธานสภาฯ ไม่เป็นกลาง เดินตามใครต้อยๆ
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ว่า เสียดายตนพูดทีไร นายกรัฐมนตรีไม่อยู่ทุกที ซึ่งการอภิปรายตนจะไม่เข้าเนื้อหางบประมาณเท่าไหร่ เพราะเห็นว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่ไม่มีอำนาจ การจะมาแถลงนโยบาย 2-3 ชั่วโมง มองว่าไม่มีอำนาจแถลงด้วยซ้ำไป แล้วเอา พ.ร.บ.ต่างๆ มาให้พวกเราพิจารณาให้เสียเวลาทำไม ซึ่งตนยอมรับว่าไม่ได้เปิดอ่านเนื้อหาใน พ.ร.บ.งบฯ เลย เพราะคิดว่ารัฐบาลไม่มีอำนาจ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากถวายสัตย์ฯ ไม่ครบ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมและอำนาจในการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563 เนื่องจากมีปัญหาทั้งต่อกรณีการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่มีผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณ เนื่องจากสถานะที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลยังไม่มีอำนาจต่อการบริหารราชกการแผ่นดิน ตน และ ส.ส.พรรคเสรีรวมไทย ไม่ขอร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยเด็ดขาด หากสภาฯ ยังเดินหน้าจะพิจารณา
“ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 63 สภาฯ จะพิจารณาได้หรือไม่ เพราะถือเป็นผลไม้พิษที่มาจากรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ หากสภาฯ พิจารณาไป จะยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ได้หรือไม่ คือ ยอมรับหรือไม่ว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณของนายกฯ เป็นเพียงพิธีกรรม เพราะจะกล่าวคำอย่างไรก็ได้ ไม่ต้องยึดถือตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้น ยอมรับรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 ไม่มีความสำคัญ ว่าใครจะกล่าวอย่างไรก็ได้ และจะยอมรับความเสี่ยงต่อการทำกฎหมาย ที่รัฐบาลไม่สามารถบริหารราชการแผ่นดิน จึงถือว่ายอมรับสิ่งที่ทำผิดกฎหมายร่วมกับรัฐบาลด้วย ประธานเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เช่น เห็นรัฐมนตรีทำผิดกฎหมายแต่ปล่อยให้ทำไปเรื่อยๆ คือ การละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ ให้รัฐบาลหรือรัฐมนตรียุติการปฏิบัติหน้าที่จนสร้างความเสียหาย ดังนั้น ประธานต้องรับผิดชอบ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
“ท่านประธานไม่ต้องห่วงร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ อยากให้ยึดหลักกฎหมายไว้ดีกว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 141 ระบุชัดเจนว่า ให้ใช้งบประมาณของปีเดิมได้ ไม่เสียหายอะไร ขอให้ประธานทำให้ถูกต้องตามกฎหมายเสีย และให้ส่งร่างกลับไปแก้ไขให้ถูกต้องเสียก่อน”
ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมสภาฯ ระหว่างที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปราย ซึ่งยังไม่ระบุถึงประเด็นรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.งบฯ โดย นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ตักเตือนให้เข้าสู่การอภิปรายและเข้าประเด็นของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ทำให้เกิดการโต้เถียงเล็กน้อย โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ชี้แจงว่า เป็นการอภิปรายเพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีความชอบธรรมต่อการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พร้อมกับถามกลับด้วยว่า ท่านได้เรียนกฎหมายมาหรือไม่ ขอให้ทำหน้าที่ให้เป็นกลาง ทำให้นายศุภชัย กล่าวตอบว่า ตนไม่ได้เรียนกฎหมาย และตนเป็นกลางอยู่แล้ว
ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวโต้ไปว่า ตนเห็นนายศุภชัย เดินตามหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะระดับรองประธานสภาฯ จะต้องเดินตามหลังแบบพินอบพิเทาหรือไม่ ที่นี่เป็นสภาฯ ไม่ใช่พรรค จากนั้น นายศุกชัย กล่าวไปว่า ขอให้เข้าเรื่องการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หากไม่เข้าเนื้อหา หรือออกนอกเนื้อหา ก็ควรจะนั่งลง ยืนยันว่าตนเป็นกลางอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวว่าจะไปตามใคร