“สิระ เจนจาคะ” ชี้ลงพื้นที่ดูแลประชาชนแก้โควิด-19 สำคัญกว่านั่งประชุมกมธ. จวก “เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” อายุเยอะแล้ว ตายไปประเทศก็ไม่เสียหาย
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติชอบ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าถ้ากลัวเชื้อโควิด-19 ไม่ต้องมาเป็นส.ส.ว่า การเป็น ส.ส. ไม่ใช่ต้องมานั่งประชุมในวันนี้ แต่คนเป็น ส.ส. เขตต้องไปดูประชาชนในพื้นที่ ขอถามว่า อะไรสำคัญกว่าระหว่างมาประชุมกับการไปดูแลประชาชนในพื้นที่ ส่วนการอ้างว่า การประชุมกมธ.เป็นการแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องการขาดแคลนหน้ากากอนามัยนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ตนเป็น ส.ส. เขต และในไลน์กลุ่มของกมธ.ป.ป.ช. ทางกมธ.หลายคนที่เป็น ส.ส. เขตให้ความเห็นว่า ต้องลงพื้นที่ดูแลความเดือดร้อนประชาชนในยามวิกฤติ แต่การจะตรวจสอบคนที่กระทำผิดเรื่องหน้ากาก 2-3 สัปดาห์ก็ยังไม่สาย
“ตอนนี้ตนมีความรู้สึกว่า มีอาการหน้าแดง จะมีอาการหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ วัดไข้เกือบ 37 องศา ดังนั้นการที่ยังประชุมกมธ.ต่อเป็นการไม่สนองนโยบายรัฐหรือไม่ มีใครรู้หรือไม่ ในห้องประชุม กมธ. มีใครมีเชื้อที่จะแพร่ได้หรือไม่” นายสิระ กล่าว
นายสิระ กล่าวว่า ที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ไม่กลัวตาย เพราะผ่านสนามรบมาเยอะแล้วนั้น มองว่าอายุท่านก็เยอะแล้ว สมควรหรือไม่ หากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นอะไรไป คิดว่า ไม่เกิดความเสียหายต่อประเทศ ท่านตายคนหนึ่งประเทศก็ยังอยู่ได้ แต่คนที่อยู่ในห้องประชุมมีตั้งเท่าไร ถ้าวันนี้ตนติดจริงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วคนในห้องประชุมจะทำอย่างไร จึงเรียกร้องให้ประธานกมธ.รับผิดชอบในคำสั่งที่ให้ประชุม จะบอกให้ตนรับผิดชอบคงไม่ใช่ แต่เป็นเพราะประธานเรียกให้ประชุม พร้อมขอให้อย่าให้นำเรื่องโควิด 19 มาเป็นเกมการเมือง และขอให้จับมือกันผ่านวิกฤติ ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล และพวกโหนกระแสก็เหมือนกัน ขอให้ไปโหนกระแสเรื่องดีๆกันบ้าง จะทำอย่างไรให้ประชาชนผ่านพ้นไปได้