‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ กางกฎหมายเตือนตำรวจ ฟันเอาผิด ‘เสี่ยบอย-ศรสุวีร์’ อย่างน้อย 3 ข้อหา หลังกักตุนหน้ากากอนามัย
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า คลิปเสี่ยบอย-ศรสุวีร์ โพสต์ขายหน้ากากอนามัยเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2563 ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมเมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ดังนั้นตำรวจต้องแจ้งข้อกล่าวหาเสี่ยบอยอย่างน้อย 3 ข้อหา คือ
1) ความผิดตาม ม.25(5) ฐานไม่แจ้งสต๊อก ต้นทุน ราคาจำหน่าย สถานที่เก็บและปริมาณคงเหลือ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเพิ่มอีกวันละ 2,000 บาทจนกว่าจะแจ้ง
2) ความผิดตาม ม.29 ฐานจำหน่ายหน้ากากในราคาที่สูงเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และ 3) ความผิดตาม ม.25(1) ฐานขายสินค้าหน้ากากเกินราคาควบคุม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ข่าวที่ปรากฏต่อสาธารณะนั้น ตำรวจ บช.น.2 แจ้งเพียงข้อหาเดียว คือ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม ม.14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 3 ข้อข้างต้น และเมื่อเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพที่เสี่ยบอยไปร่วมงานสานสัมพันธ์พี่น้องกับนายตำรวจใหญ่ และกิจกรรมอื่นๆร่วมกับตำรวจอีกมากมาย ก็มาถึงบางอ้อครับ
แต่อย่าลืมนะครับตาม ปอ.ม.200 บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งพนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหรือจัดการให้เป็นไปตามหมายอาญา กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใด ๆ ในตำแหน่งอันเป็นการมิชอบ เพื่อจะช่วยบุคคลหนึ่งบุคคลใดมิให้ต้องโทษ หรือให้รับโทษน้อยลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000 บาทถึง 14,000 บาท” ตามดูกันต่อไป ถ้าไม่ทำให้ถูกต้อง เรื่องถึง ป.ป.ช. แน่ครับ