“ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบ “มงคลกิตติ์” ผู้นำฝ่ายค้านอิสระ ส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง โดยการกระทำดังกล่าว ไม่มีกฎหมายฉบับใดหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญใดให้อำนาจไว้ หากแต่เป็นการขัดต่อ ม.106 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บัญญัติไว้ชัดเจน
วันที่ 4 พ.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โชว์หนังสือคำสั่งแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ ว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา พรรคไทยศรีวิไลย์ได้แถลงออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระ ต่อมา วันที่ 10 ก.ย. พรรคประชาธรรมไทย ได้แถลงออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระเช่นกัน ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคประชาธรรมไทย ซึ่งมี ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อจำนวนพรรคละ 1 เสียง จึงตัดสินใจมาทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านอิสระ
ทั้งนี้ เพื่อให้การทำหน้าที่ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านอิสระจำนวน 2 เสียง มีประสิทธิภาพ ในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ จึงได้แต่งตั้งผู้บริหารฝ่ายค้านอิสระขึ้นมานั้น
โดยการกระทำดังกล่าว ไม่มีกฎหมายฉบับใดหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญใดให้อำนาจไว้ หากแต่เป็นการขัดต่อ ม.106 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้วพระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
ดังนั้น การที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงนามสถาปนาตนเองขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ และสถาปนา นายพิเชษฐ สถิรชวาล มาเป็นประธานที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านอิสระ จึงอาจขัดต่อ พรป.พรรคการเมือง 2560 และขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 ม.5 ม.160 ประกอบ ม.115 ซึ่ง ส.ส. ทั้งสองได้ปฏิญาณตนว่า จะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการไว้แล้ว รวมทั้งการขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ส.ส. “ต้องยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาทั่วโลกมีแต่ผู้นำฝ่ายรัฐบาล กับผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้น การแต่งตั้งตนเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งไม่อาจยอมรับได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ใช้อำนาจดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อระงับและหยุดยั้งการกระทำดังกล่าวและลงโทษการกระทำที่ฝ่าฝืนเสีย โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้อง ในวันพุธที่ 6 พ.ย. นี้