ศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อดีตอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองไทยในปี 2563 ที่คาดว่าจะมีความขัดแย้งรุนแรงมาขึ้นถึงขั้นมีการชุมนุมบนท้องถนนเหตุเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจต้องการทำให้ฝ่ายค้านไม่มีพลังในรัฐสภา แต่ก็ไม่เชื่อว่าฝ่ายผู้มีอำนาจะใช้ความรุนแรงได้ง่ายๆ อีก ดังนี้
“ปี 2563 แนวโน้มไปสู่ความขัดแย้งอย่างเปิดเผย กระทั่งปะทะกันคงยากที่จะหลีกเลี่ยง และฝ่ายที่กำลังนำไปสู่เหตุการณ์นั้นก็คือฝ่ายอำนาจรัฐเอง แม้รธน.60 ให้ความได้เปรียบทุกประตูแก่ฝ่ายรัฐ ผูกเงื่อนให้นายกฯอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องพึ่งสภาผู้แทน กฎเกณฑ์และองค์กรสารพัดมัดมือเท้าผูกคอพรรคฝ่ายค้านไว้แน่น กระนั้นไม่พอ ยังให้พรรคฝายค้านหมดเสียงไร้บทบาทสิ้นเชิง ให้สภาผู่้แทนฯเป็นแค่สภาตรายาง”
ข้างหน้าคือ การทำลายพรรคฝ่ายค้านที่เป็นหัวหอกด้วยการยุบพรรคและคดีการเมืองทำลายแกนนำพรรค คือบทเรียนที่เกิดกับทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-ไทยรักไทย-พลังปชช.-เพื่อไทย ที่ใช้ได้ผลสำเร็จมาแล้ว แต่การปิดตายหนทางรัฐสภามีแต่ทำให้ความขัดแย้งไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปแสดงออกนอกสภา กระทั่งลงสู่ท้องถนน ที่ซึ่งกฎหมายปกติจัดการได้ประสิทธิผลน้อยกว่า เปลี่ยนความขัดแย้งที่จำกัคควบคุมได้และคาดเดาได้ล่วงหน้าในสภา ไปสู่ความขัดแย้งข้างนอกที่สุ่มเสี่ยงคาดเดาไม่ได้และควบคุมได้ยากกว่า”
ดูเหมือนฝ่ายรัฐเชื่อว่า ควบคุมและคาดเดาได้ เพราะถึงยังไง เครื่องมือสุดท้ายที่มีอยู่และมั่นใจได้เสมอก็คือการใช้ความรุนแรง ดังเช่นเหตุการณ์ปี 2552-53 แต่ในเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน สภาพแวดล้อมเปลี่ยน พลังอุดมการณ์และความยึดมั่นเปลี่ยน ทั้งผู้คนก็เปลี่ยน ผลสุดท้ายคราวนี้จึงเป็นไปได้มากที่จะเปลี่ยนไปเช่นกัน