องค์คณะอุทธรณ์คดีนักการเมือง พิพากษายืนยกฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร ไม่ผิดตั้งกระทรวงการคลังฟื้นฟูทีพีไอ
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ 9 คนที่เลือกจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์คดีหมายเลขดำ อธ.อม.4/2561 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โจทก์ ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2561 ด้วยเสียงข้างมากยกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อายุ 70 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีนายทักษิณ ขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ เมื่อปี 2546 ได้เสนอให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ และร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐรมว.คลัง สมัยนั้น ยินยอมให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผน และเสนอชื่อ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นประธานคณะผู้บริหารแผน และนายทนง พิทยะ เป็นผู้บริหารแผน
ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าวศาลได้ไต่สวนลับหลังจำเลย โดยในชั้นพิจารณาจำเลยไม่มาศาลถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี และศาลออกหมายจับนายทักษิณไว้แล้ว เนื่องจากหลบหนีไปต่างประเทศในคดีอื่น ขณะที่วันนี้มีเพียงผู้แทน ป.ป.ช.โจทก์ เดินทางมาศาล ซึ่งศาลอ่านคำพิพากษาให้ฝ่ายโจทก์ฟัง และถือว่าจำเลยรับทราบคำพิพากษา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อองค์คณะผู้พิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์มีคำพิพากษายกฟ้องแล้ว ผลคดีจึงถือเป็นที่สุดยุติตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยนายทักษิณไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบในกรณีดังกล่าว ขณะนี้คดีดังกล่าวถือเป็นคดีเดียวที่ศาลฎีกาฯ และองค์คณะวินิจฉัยชั้นอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนให้ยกฟ้อง