ม็อบ29ตุลา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, นางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า, นานพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.นครปฐม เดินทางมาที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวง6 (ปทุมวัน) เพื่อฟังคำสั่งคดีกรณีถูกกล่าวหาร่วมกระทำผิด พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในการชุมนุมแฟลชม็อบ บริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน หน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 62
โดยศาลฯพิจารณาแล้ว มีความเห็นรับฟ้องตามพนักงานอัยการที่ยื่นฟ้อง ทั้งหมด 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง 2.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ 3.ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ 4.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 5.ชุมนุมใกล้เขตพระราชฐานในรัศมี 150 เมตร และ 6 เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกชุมนุมแต่ไม่เลิก
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ตัวแทนทนายความผู้ต้องหาทั้งหมด เผยว่า อัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในหลายข้อหา ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ อาทิ ไม่แจ้งเจ้าพนักงาน มีการชุมนุมเขตพระราชฐานใกล้วังสระปทุม ไม่เกิน 150 เมตร ขัดขวางการคมนาคมรถไฟฟ้าบีเอส ใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก โดยทั้ง 5 ให้การปฎิเสธ ขณะที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีหลักประกัน และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 22 ธ.ค.63 เวลา 10.00 น.
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ระบุว่า สิ่งที่เกิดกับตน และนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็น อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนิสิต นักศึกษา นักเรียน ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง เรียกร้องประชาธิปไตย ความเป็นธรรมในสังคม คือ นิติสงคราม เป็นการใช้กฎหมายมาทำให้หวาดกลัวเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม การจับพวกเราและแกนนำคนอื่น ๆ เข้าคุก ไม่ทำให้ปัญหาจบ มีแต่จะยิ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนบานปลาย