กรณี การบินไทยล้มละลาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กไลฟ์ เปิดเผยถึง แผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ค้ำประกันกู้เงิน 50,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่อง ใช้ในการดำเนินงานและชำระหนี้ระยะสั้น ระบุว่า รัฐบาลอุ้มการบินครั้งนี้ ไม่ได้ใช้เงินเพียงแค่ 50,000 ล้านบาท เพราะใช้เพียงหล่อเลี้ยงสภาพคล่อง และจ่ายเงินเดือนพนักงาน
ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจการบิน การท่องเที่ยว และสนามบินปิดอยู่ ต่อไปถ้าการบินไทยล้มละลาย เจ้าหนี้ได้เงินทุกบาททุกสตางค์จากรัฐบาล แต่ยังมีก้อนที่สองที่พูดถึงกันน้อย คือ การเพิ่มทุนเพื่อปรับปรุงงบการเงินให้แข็งแรง และเดินหน้าธุรกิจในระยะยาวอีก 80,000 ล้านบาท รวมแล้วจะต้องใช้เงิน 130,000 ล้านบาท
ตนไม่เห็นด้วยกับวิธีการอุ้มการบินไทยแบบรัฐบาล เนื่องจากแบบที่รัฐบาลทำอยู่ในปัจจุบันนั้น ถ้าการบินไทยไปได้ดี ผู้ถือหุ้นเป็นผู้ชนะ หากการบินไทยเจ๊ง ประชาชนแพ้ ผู้ถือหุ้นไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย เจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นตามมาตรการของรัฐบาลนี้ไม่ต้องมีความรับผิดชอบใดๆ กับผลประกอบการของการบินไทย ไม่ว่าจะขาดทุนเท่าไรก็ตาม แต่ถ้ากำไรพวกเขาได้ประโยชน์ กลับกันในส่วนของประชาชน ถ้าการบินไทยไปได้ดี ประชาชนไม่ได้อะไรเลย แต่ถ้าการบินไทยเจ๊ง ประชาชนจะต้องเป็นคนแบกหนี้ เป็นคนที่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มทุนลงไป ดังนั้น ผมเห็นว่าเรามีรูปแบบอื่น มีวิธีแบบอื่นที่จะจัดการปัญหาของการบินไทยในวันนี้ได้ดีกว่านี้
ในส่วนของ การบินไทย ไม่ใช่สายการบินเดียวที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ ยังมีสายการบินอื่นอีกด้วย ที่ผ่านมา เงินเดือนและสวัสดิการของการบินไทย สูงกว่าสายการบินอื่นๆ ในเอเชีย แต่ประสิทธิภาพต่อพนักงานหนึ่งคนต่ำ ค่าเฉลี่ยพนักงาน 1 คนของการบินไทย สร้างยอดขายได้เพียง 8.8 ล้านบาทต่อปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสายการบินอื่น 11.7 ล้านบาทต่อปี จะเห็นได้ว่า การบินไทยมีต้นทุนต่อพนักงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการบิน แต่ขณะเดียวกัน มีประสิทธิภาพต่อหัวพนักงานต่ำกว่า แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของผู้บริหารและการบริหารองค์กร ที่ไม่สามารถเอาศักยภาพของพนักงานมาแปรเป็นรายได้และกำไรได้ ดังนั้น คงหนีไม่พ้นการปฏิรูปครั้งใหญ่ การปรับโครงสร้างการบริหาร การปรับโครงสร้างหนี้ และการปรับโครงสร้างทุนของการบินไทย หากยังเห็นว่าจำเป็นจะต้องมีสายการบินแห่งชาติต่อไป
อย่างไรก็ตาม มีทางเลือกอยู่ 4 ทาง คือ 1. เปิดเสรีน่านฟ้า รัฐบาลถือหุ้นการบินไทยเหลือ 0% แล้วให้สายการบินทุกแห่งแข่งขันอย่างเสรี 2. เปิดเสรีน่านฟ้า หุ้นการบินไทยที่รัฐบาลถือต้องไม่เกิน 25% แต่ให้กลไกตลาดมีอำนาจพอที่จะกำกับการบินไทย 3. ทำแบบปัจจุบัน ที่รัฐบาลถือหุ้นมากกว่า 51% 4. รัฐบาลถือหุ้นการบินไทย 100% แต่ปัจจุบันมีหนทางคือ 1. ปล่อยการบินไทยล้มละลายไปเลย รัฐบาลไม่เข้าไปยุ่ง ให้กลไกตลาดเป็นตัวจัดการ ถ้ามีคนสนใจ ผู้ซื้อรายใหม่จะไปดำเนินการต่อเอง 2. การเข้าไปช่วยการบินไทยปล่อยกู้ในระยะสั้น เพื่อนำไปสู่การขาย หรือล้มละลายอย่างมีการจัดการ (Bridge Loan) 3. ยึดการบินไทยกลับมาเป็นของรัฐ (Nationalization) ตัดผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ออกให้หมด ซึ่งจะไปสู่จุดจบแบบไหนก็ได้ อาทิ หากปล่อยให้ล้มละลาย จำเป็นจะต้องนำมาสู่การเปิดน่านฟ้าเสรี เพราะการบินไทยได้ประโยชน์จากการที่ประเทศไทยไม่ได้เปิดเสรีน่านฟ้า
อนึ่ง ผู้ที่อยากจะบินเส้นทางไหนก็บินได้ ค่าสัมปทานเส้นทางต้องเท่ากันทุกสายการบิน ซึ่งมีหลักการของการเท่าเทียมของการแข่งขัน รัฐบาลห้ามช่วยสายการบินแห่งชาติของตัวเองเป็นพิเศษ ทุกสายการบินจะต้องได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน การบินไทยได้รับประโยชน์จากการไม่เปิดเสรีทางการบิน ผูกขาดเส้นทางการบินในเมืองที่มีกำไรได้ การเปิดเสรีน่านฟ้าทำให้เกิดการแข่งขัน ประชาชนได้ประโยชน์ ทีนี้ถ้าให้เงินกู้ 50,000 ล้านบาท เอาไปปล่อยกู้แล้วเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูโดยไม่ต้องเพิ่มทุน 80,000 ล้านบาท ให้เงินกู้เพื่อนำไปสู่การขายกิจการ รัฐบาลจะได้คืนโดยผู้ซื้อรายใหม่ อาจนำไปสู่การเปิดเสรีน่านฟ้าทั้งแบบ 100% หรือรัฐบาลถือหุ้นไม่เกิน 25% โดยนำการบินไทยไปประมูลเพื่อนำเงินคืนรัฐบาล