“เทพไท” ส.ส.นครศรีธรรมราช หนุน แคมเปญ “มีปัญหา ปรึกษานายกฯ” ชี้ โครงการมีประโยชน์ แนะ “บิ๊กตู่” เปิดกว้าง ให้ประชาชนผู้เดือดร้อนทุกกลุ่มมีโอกาสเข้าพบ-ไม่เลือกปฎิบัติ
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2563 นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่มีแคมเปญซีรีส์ “มีปัญหา ปรึกษานายกฯ” พร้อมเปิดทำเนียบรัฐบาลเพื่อรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนโดยตรง ว่า ตนนั้นสนับสนุนโครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ นายกรัฐมนตรีจะได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชนโดยตรง ซึ่งตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง พยายามจะปรับบทบาทใหม่ให้เหมือนกับนักการเมืองทั่วไปให้มากที่สุด จะใช้บุคคลิกแบบ พบง่ายใช้คล่อง หรือใจถึงพึ่งได้ ที่นักการเมืองหลายคนใช้หาเสียงกัน
โดยการเปิดทำเนียบเพื่อพบกับประชาชนเมื่อวาน(5 มี.ค.)ที่ผ่านมา เป็นการเตรียมการโดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด เพราะเห็นว่าทั้ง 3 ท่าน มีประสบการณ์งานมวลชนมาอย่างโชกโชน เพราะเป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาหลายสมัย และเคยเป็น กปปส.มาก่อน จึงได้รับมอบหมายให้เปิดแนวรุกด้านมวลชนขึ้นมาใหม่
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ถ้าหากโครงการดังกล่าวเป็นความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นควรว่าจะต้องเปิดกว้างให้กับประชาชนผู้เดือดร้อนทุกกลุ่มได้มีโอกาสเข้าพบ โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ และต้องไม่เป็นการจัดฉากโดยนำกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มมาเข้าพบเพื่อสร้างภาพผ่านสื่อเท่านั้น นั้น สิ่งที่พิสูจน์ได้ง่ายที่สุดก็คือ พล.อ.ประยุทธ์กล้าพบกับแกนนำผู้ชุมนุมที่มาร้องทุกข์ หรือชุมนุมหน้าทำเนียบหรือไม่ การสัมผัสกับมวลชนที่กระทำได้ง่ายที่สุด ก็คือ ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการ หรือ ครม.สัญจร สามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าพบอย่างใกล้ชิด และร้องทุกข์ด้วยตัวเองได้ง่ายที่สุด ต้องกำชับไม่ให้มีข้าราชการคอยกีดกัน หรือทีมรักษาความปลอดภัยคอยขัดขวาง และนายกรัฐมนตรีควรปรับปรุงท่าที หรือความมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกว่านี้ ต้องไม่มีภาพเหมือนตอนที่นายกรัฐมนตรีพูดตะคอกใส่นายภรัณยู เจริญ ชาวประมง เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2560 ครั้งลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่จังหวัดปัตตานีซ้ำร้อยอีก