วันที่ 18 กรกฎาคม 2563 นาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live กล่าวถึง การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันพรุ่งนี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้น ถนนวิภาวดีรังสิต ว่า คงเป็นเพียงวาระการประชุมตามข้อบังคับพรรค และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา43 และมาตรา61 ซึ่งมีวาระสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ 1.การรับรองงบการเงินของพรรคประจำปี2562, 2.รายงานผลดำเนินการของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา,3.เลือกตั้งซ่อมตำแหน่งเหรัญญิกพรรค แทนนายอภิชัย เตชะอุบล ที่ลาออกไป และ 4.รับรองแผนงานหรือโครงการที่จะดำเนินกิจกรรมของพรรคในปีต่อไป
นายเทพไท กล่าวอีกว่า ถ้าหากจะมีการแสดงความเห็นอื่นใดเพิ่มเติม ก็น่าจะเป็นเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ผลการดำเนินงานของพรรคในรอบปีที่ผ่านมา และแผนงานของพรรคในปีต่อไปเท่านั้น ไม่น่าจะมีวาระซ่อนเร้นอะไรเป็นพิเศษ ส่วนกรณีการแสดงความเห็นของนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี รองเลขาธิการพรรคนั้น ก็น่าจะเป็นเพียงการแสดงจุดยืนของนายอันวาร์ ที่ได้ประกาศจุดยืนของตัวเองมาโดยตลอด และได้เคยทำจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคมาแล้ว ถ้าหากในวันพรุ่งนี้นายอันวาร์ จะนำเสนอประเด็นเรื่องการทบทวนอุดมการณ์ของพรรคหรือจุดยืนทางการเมืองของพรรคเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาอภิปรายกัน ก็เป็นสิทธิ์สามารถทำได้ในฐานะสมาชิกพรรคที่เป็นองค์ประชุมคนหนึ่ง และอาจจะมีสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ผสมโรงแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยก็ได้ แต่ทั้งหมดก็น่าจะอยู่ในกรอบเรื่องแผนงานกิจกรรมของพรรคเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีในส่วนของพรรค หรือการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคแต่อย่างใด
นายเทพไท กล่าวว่า ทั้งนี้การประเมินผลงานของรัฐมนตรีแต่ละคนนั้นเป็นเรื่องภายในของพรรค ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคได้มีข้อตกลงกับที่ประชุมการสัมมนา ที่เกาะเสม็ดว่าจะมีการประเมินผลให้แล้วเสร็จภายใน2สัปดาห์ ซึ่งจะครบกำหนดภายในสัปดาห์นี้ และจะต้องนำผลการประเมินผลงานรัฐมนตรีแต่ละคนเสนอต่อที่ประชุม ส.ส.เพื่อพิจารณาร่วมกับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ประกาศกำหนดเวลาการปรับคณะรัฐมนตรีให้เสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งสอดคล้องกับห้วงเวลาการประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคพอดี จึงไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า การประเมินผลงานรัฐมนตรีของพรรคในครั้งนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล แต่ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีของพรรคจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องรอผลการประเมินผลงานรัฐมนตรีจากพรรคเสียก่อน