วันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 นาย เทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงหัวข้อ “ทำไมต้องอยู่ประชาธิปัตย์???” โดยระบุว่า…
“ทำไมต้องอยู่ประชาธิปัตย์???
ผมเกิดมาก็รู้จักกับพรรคประชาธิปัตย์เติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่ ญาติพี่น้องเป็นหัวคะแนนให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ผมมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง เพื่อทำงานช่วยเหลือพี่น้องคนในชนบทที่ด้อยโอกาสซึ่งเป็นสังคมที่ผมเกิดมา ผมมีความใฝ่ฝันตั้งแต่สมัยยังเด็กอยู่ว่า ถ้าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะขอสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ผมรอคอยโอกาสนี้มานานเป็นเวลาเกือบ 20 ปี จวบจนปี 2548 ผมได้รับโอกาสจากอาจารย์ตรีพล เจาะจิต ให้ลงสมัคร ส.ส.แทนท่าน ในเขตเลือกตั้งที่6 จังหวัดนครศรีธรรมราช ผมได้ร่วมต่อสู้ทางการเมืองกับเพื่อนๆชาวประชาธิปัตย์ในทุกสถานการณ์
พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันทางการเมือง เปรียบเสมือนโรงเรียนที่สร้างนักการเมืองที่มีคุณภาพออกไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่อาจจะมีทั้งดีและไม่ดีบ้างปะปนกันไปก็เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย แม้ว่าวันนี้ใครจะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ผมคนหนึ่ง ยังคงยืนยันที่จะอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพราะผมเกิดทางการเมืองที่นี่ ถ้าจะยุติบทบาททางการเมืองก็จะจบชีวิตทางการเมืองที่นี่เท่านั้น
พรรคประชาธิปัตย์ คือบ้านของทุกคนที่ทุกคนเป็นเจ้าของ เราต้องช่วยกันดูแลบำรุงรักษา พัฒนาบ้านที่เราอยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรง หากใครจะอ้างว่าเพราะพรรคไม่ให้โอกาส ไม่มีบทบาทต้องออกจากพรรคไป ผมคนหนึ่งที่พรรคไม่ได้ให้โอกาส และไม่ได้มีบทบาทอะไรในพรรคเลย ไม่ว่าตำแหน่งทางการบริหาร คณะทำงาน หรือคณะกรรมการชุดต่างๆ ผมมีแต่คำว่า ส.ส.ติดตัวเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น แต่ผมก็ยังสู้ สู้เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ สู้เพื่อประชาชน สู้เพื่อประเทศชาติต่อไป
พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่ให้โอกาสกับทุกคน วันนี้หากใครจะเดินออกจากบ้านหลังนี้ไป ก็ขอให้ออกด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน แม้เราจะไม่ได้อยู่ร่วมบ้านเดียวกันอีกแล้ว เราก็อาจจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันได้ ขออย่างเดียวเท่านั้น เมื่อออกจากบ้านนี้แล้ว ขออย่ามาทำลายบ้านหลังนี้ พรรคประชาธิปัตย์เปรียบเสมือนแม่ผู้ให้กำเนิด ถ้าลูกที่เกิดจากแม่กลับมาทำลายแม่ ก็ไม่ต่างอะไรกับ การมาตุฆาตทางการเมือง
ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผมรักพรรคประชาธิปัตย์ ศรัทธาในอุดมการณ์ของพรรคทั้ง 10 ข้อ ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ 6 เมษายน 2489 เป็นเวลา73ปีแล้ว ยังดังกึงก้องอยู่ในสมองของผมตลอดเวลา โดยเฉพาะอุดมการณ์ข้อ4 ที่ประกาศว่า “พรรคจะไม่สนับสนุนระบบ และวิธีแห่งเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นระบบและวิธีการของรัฐบาลใดๆ” ผมไม่มีวันลืมและจะต่อสู้ต่อไปตามอุดมการณ์ของพรรคอย่างเคร่งครัด จะไม่ย่อท้อหรือก้มหัวยอมแพ้ให้กับมัน
ด้วยเหตุนี้เองผมจึงตอบคำถามของตัวเองว่า”ทำไมผมต้องอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์”